วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยระบุว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย ที่จังหวัดกระบี่ เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 32 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้ได้เดินทางเข้าประเทศไทย ก่อนที่ประเทศจีนจะปิดสนามบินอู่ฮั่น
อีกทั้งวันนี้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการวิจัยยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัส ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้รับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ได้ผลยืนยัน พบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย รายที่ 1 เป็นหญิงไทยอายุ 31 ปี อาชีพแม่บ้าน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ แพทย์ได้ซักประวัติเพิ่มเติม พบประวัติสมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับจากประเทศจีน
ส่วนรายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 29 ปี อาชีพทำงานสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวชาวจีน มาด้วยอาการไข้ ไอ รับรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคได้สอบสวนและเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เพื่อส่งตรวจต่อไป และในช่วงบ่ายวันนี้จะนำข้อมูลผู้ป่วยและการสอบสวนโรคเบื้องต้นเข้าสู่การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้านต่อไป เพื่อพิจารณาโดยละเอียดอีกครั้ง ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันรวม 37 คน กลับบ้านได้ 22 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ผู้ป่วยยืนยันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 15 คน
การที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่กระทรวงสาธารณสุขปรับนิยามการเฝ้าระวังคัดรองตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 โดยขยายพื้นที่ครอบคลุมประเทศเสี่ยงใหม่ ได้แก่ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์ และจีน (รวม ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) และ 8 จังหวัดของไทย คือ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, เชียงราย, สมุทรปราการ, กระบี่, ภูเก็ต, ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์
สำหรับประเทศไทยได้มีการคัดกรองผู้เดินทางจากทุกด่าน ตั้งแต่ด่านท่าอากาศยาน ด่านท่าเรือ ด่านพรมแดนทางบก และจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 3,141,879 คน (วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563) รวมถึงการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลและชุมชน พบผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง 1,580 คน กักตัวไว้ที่โรงพยาบาล 420 คน กลับบ้านได้ 1,160 คน
ทั้งนี้ การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายอันดับที่ 14 เพื่อประโยชน์ต่อการดูแลประชาชน มีกฎหมายรองรับ ทำให้โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ บุคลากร สามารถบังคับรับรักษา ปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว ประโยชน์ต่อสังคมทำให้ประชาชนรู้สถานการณ์โรคเร็ว ลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง
กระทรวงสาธารณสุขจึงขอให้ประชาชนเลี่ยง เลื่อน การเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค หากเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และเมื่อกลับมาจากประเทศเสี่ยง ให้แยกตัวเองออกจากสมาชิกในครอบครัว สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอ จาม ให้พบแพทย์ทันที
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล