จากผู้ติดเชื้อเกือบพันต่อวันลดเหลือหลักสิบ ถอดบทเรียนคุมเข้มโควิด-19 ของเกาหลีใต้

ช่วงปลายกุมภาพันธ์และต้นมีนาคม ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ในเกาหลีใต้พุ่งทะยานอย่างหนักจนยอดสูงรองจากจีน แต่เพียง 2 เดือนให้หลัง สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศนี้กลับดีขึ้นเรื่อยๆ จนยอดผู้ป่วยใหม่ต่อวันลดลงเหลือเพียงหลักสิบในปัจจุบัน

เกาหลีใต้นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จต่อการควบคุมไม่ให้โควิด-19 แพร่กระจาย ผ่านมาตรการที่เห็นผลอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะการเร่งให้บริษัททางการแพทย์ต่างๆ พัฒนาเครื่องตรวจเชื้อเพียง 1 สัปดาห์ให้หลังการยืนยันพบผู้ป่วยรายแรกในประเทศเมื่อช่วงเดือนมกราคม จนส่งผลให้เกาหลีใต้สามารถผลิตเครื่องทดสอบได้หลักแสนชุดต่อวัน เอื้อต่อมาตรการสำคัญที่ถูกใช้ถัดมาอย่างการปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อผ่านศูนย์ตรวจนับร้อยแห่งทั่วประเทศ หรือการอำนวยความสะดวกของศูนย์ตรวจแบบไดร์ฟทรู

ไม่เพียงเท่านี้ มาตรการติดตามตัวกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยถือเป็นอีกมาตรการสำคัญที่ทำให้เกาหลีใต้สามารถคุมและแยกตัวผู้ป่วยไม่ให้การแพร่เชื้อขยายวงกว้างขึ้น นอกจากมาตรการเชิงรุกเหล่านี้แล้ว เกาหลีใต้ยังประกาศเตือนให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคมด้วย

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 เมษายน 2563) เกาหลีใต้มีผู้ป่วยยืนยัน 10,613 คน รักษาหาย 7,759 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 229 ราย แต่รัฐบาลยังคงเตรียมแผนรับมือเพื่อไม่ให้เชื้อกลับมาแพร่ระบาดใหม่อีกครั้ง

ติดตามความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์

นอกเหนือการติดตามและรุกตรวจที่ใช้อยู่เดิมแล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมใช้ฐานข้อมูล ‘เมืองอัจฉริยะ’ และกำไลติดตามตัวสำหรับผู้ต้องกักตัว เพื่อย่นเวลาระบุประวัติความเคลื่อนไหวหากมีการฝ่าฝืนที่จากเดิมใช้เวลา 1 วัน ให้เหลือ 10 นาที

ฐานข้อมูลนี้อาศัยการแบ่งปันข้อมูลระหว่างเมืองต่างๆ พร้อมการบันทึกการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ ควบคู่ไปกับบันทึกกล้องวงจรปิดและข้อมูลธุรกรรมจากบัตรเครดิต อย่างไรก็ตาม กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งระบุว่า การเข้าถึงข้อมูลนี้ต้องได้รับอนุมัติจากตำรวจ และมีเจ้าพนักงานเพียงหยิบมือเท่านั้นที่มีอำนาจตรวจสอบได้

โดยทางการเน้นย้ำว่าการสวมใส่กำไลต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย หลังองค์กรสิทธิมนุษยชน 17 แห่งแสดงความกังวลต่อประเด็นความเป็นส่วนตัว

คงแผนเว้นระยะห่างทางสังคม

การเว้นระยะห่างทางสังคมนับเป็นมาตรการที่หลายประเทศปรับใช้รับมือโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้เองก็ให้ความสำคัญกับแผนนี้เพื่อให้เศรษฐกิจและชีวิตคนในสังคมเดินหน้าต่อไปได้

การหารือนโยบายชี้ว่า รัฐบาลจะมุ่งเน้นการบังคับใช้ในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามบ้าน ที่ทำงาน หรือสถานที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหม่ และกดให้ยอดผู้ป่วยใหม่ต่อวันสูงไม่เกินเส้น 50 คน เพราะหากเกินกว่านั้นจะมากกว่าศักยภาพของหน่วยงานทางการแพทย์

รัฐบาลเกาหลีใต้ยังเตรียมเสริมประสิทธิภาพทางการแพทย์ ไม่ว่าจะด้านทรัพยากรหรือการตรวจเชื้อ พร้อมตั้งงบประมาณ 135,000 ล้านวอน รองรับสถานการณ์โควิด-19 และการแพร่ระบาดในอนาคต โดยยังปรับข้อกำหนดใหม่ให้รัฐบาลต้องสะสมอุปกรณ์สำคัญทางการแพทย์อย่างหน้ากากอนามัย ชุดป้องกัน หรือน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ด้วย

เลือกตั้งไม่เลื่อน

เมื่อวานนี้ (15 เมษายน) เกาหลีใต้เดินหน้าจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา โดยมอบหมายให้ทหาร 550,000 นาย แยกประจำการและทำความสะอาดหน่วยเลือกตั้งนับ 14,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมคุมระยะห่างไม่ให้ผู้มาใช้สิทธิ์ยืนใกล้กันเกินไปด้วย

ด้านผู้มาลงคะแนนต้องให้ความร่วมมือด้วยการสวมหน้ากาก ยืนห่างกัน 1 เมตร วัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมเช็ดมือฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ ก่อนสวมถุงมือเพื่อเข้าสู่หน่วยเลือกตั้ง โดยรายงานระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 66 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในรอบ 16 ปี

กักตัวคนเข้าประเทศ

มาตรการควบคุมชายแดนเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ได้รับการยกระดับเช่นเดียวกัน เกาหลีใต้ยังคงปักธงมาตรการต่างๆ ไว้บนฐานของการตรวจเชื้อเป็นวงกว้างและติดตามตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ แม้เป็นพลเรือนของประเทศก็ต้องปฏิบัติตามด้วย

คนที่เดินทางมาถึงจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของทางการเพื่อติดตามตำแหน่งและรายงานอาการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังพ้นกำหนดกักตัวพวกเขาสามารถลบแอปฯ ทิ้งได้หากมีการแจ้งเตือนแล้ว

นอกจากนี้ในท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ทางการจัดตั้งจุดตรวจแบบวอล์กทรูให้สำหรับผู้แสดงอาการป่วย ส่วนกลุ่มที่ไม่มีอาการเองต้องได้รับการตรวจภายใน 3 วัน

จะเปิดประเทศอย่างไรให้การระบาดไม่วนเวียนกลับมาหลอกซ้ำ คือโจทย์ใหญ่ที่หลายประเทศกำลังขบคิด แต่นอกเหนือจากกลยุทธ์ในการวางแผนเปิดเมืองแล้ว สิ่งที่ประเทศต่างๆ ควรมองจาก ‘เกาหลีใต้โมเดล’ คือแผนรองรับที่รัดกุม เทคโนโลยี และการบังคับใช้ที่จริงจัง

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: