วันนี้ (6 ธันวาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบจากกระทรวงสาธารณสุขถึงการตรวจพบผู้ป่วยโควิดต้องสงสัยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในไทย เป็นการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากสเปน จากระบบ Test and Go ซึ่งถือว่าไทยเป็นอันดับที่ 47 ของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธ์ุโอไมครอน
หลังจากตรวจตัวอย่าง พบความเข้ากันได้กับจีโนมของโอไมครอนสูงถึง 99.92% อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันว่า สายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ในไทยยังเป็นสายพันธุ์เดลตา 65.97% สายพันธุ์อัลฟา 32.48% และสายพันธุ์เบตา 1.54%
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและคณะแพทย์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา เพื่อติดตามพัฒนาการสถานการณ์โควิดอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแนวทางหรือนโยบาย ซึ่งทุกอย่างจะต้องมีการนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ในครั้งต่อไป
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย มีกระบวนการการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และคัดกรองที่มีประสิทธิภาพและเข้มข้นสูง สามารถวินิจฉัยผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโควิดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนตระหนักแต่อย่าได้ตระหนก โดยคณะแพทย์ไทยและทั่วโลกยังยืนยันการยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ด้วยมาตรการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล Universal Prevention เป็นการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาให้ปลอดภัยจากโควิด ทั้งสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า รักษาและเว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือให้สะอาด สามารถป้องกันโควิดได้ทุกสายพันธุ์” ธนกรกล่าว
ธนกรกล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรียังฝากย้ำไปถึงประชาชนที่ยังลังเลยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ขอความร่วมมือให้รีบเข้ามารับการฉีดวัคซีนที่รัฐจัดหาให้ รวมทั้งสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว ก็ขอให้ติดตามการประกาศข้อแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุข สำหรับการเข้ารับฉีดวัคซีนบูสเตอร์ในระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป