โควิดป่วนยุโรปหนัก! เศรษฐกิจส่อพลิกร่วงช่วงท้ายปี การระบาดรอบใหม่อาจต้องกลับไปล็อกดาวน์

บรรดานักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์หลายสำนักพร้อมใจออกโรงแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มชาติสมาชิกผู้ใช้เงินยูโร หรือ ยูโรโซน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว บีบให้รัฐบาลยุโรปจำต้องงัดมาตรการล็อกดาวน์ขึ้นมาใช้อีกครั้ง

สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า ความหวังที่เศรษฐกิจยุโรปจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งภายในสิ้นปีนี้ หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเดือนตุลาคมก่อนหน้าของบรรดาผู้เชี่ยวชาญมีแววต้องดับวูบไปอย่างรวดเร็ว เหตุเพราะการระบาดระลอกใหม่ของโควิดในหลายประเทศทั่วยุโรป โดยล่าสุดรัฐบาลออสเตรียจำต้องประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ขณะที่ เยอรมนี ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของภูมิภาคก็อยู่ในระหว่างพิจารณายกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดกั้นการระบาด

ทั้งนี้ เยนส์ สปาห์น (Jens Spahn) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในระดับสูงสุด พร้อมสั่งให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เตรียมพร้อม เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุดรายวัน ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีกำลังพิจารณาตัดสินใจยกระดับมาตรการคุมเข้มโควิด ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจว่าจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศหรือมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน

คริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจจาก IHS Markit กล่าวว่า การขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เหนือความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าเศรษฐกิจยูโรจะชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนตุลาคม แต่การฟื้นตัวในไตรมาส 4 โดยรวมยังคงมีแนวโน้มทางลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโควิดกลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม รูเบน เซกูรา-คายูเอลา (Ruben Segura-Cayuela) นักเศรษฐศาสตร์ยุโรปของ Bank of America กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากการใช้มาตรการคุมเข้มของหลายชาติในยุโรป แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าการระบาดระลอกแล้วระลอกเล่าในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงจำกัด เนื่องจากธุรกิจและผู้บริโภคมีการเรียนรู้ที่จะจัดการรับมือ เห็นได้จากการระบาดครั้งล่าสุดในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้าที่มีผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวงจำกัด

รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิดในช่วงปี 2020 โดยที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนปรับตัวลดลงถึง 6.3% กระนั้นยุโรปก็สามารถฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็วหลังรัฐบาลหลายประเทศจัดการกระจายการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง พิสูจน์ได้จากตัวเลข GDP ของยูโรโซนในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายนปีนี้ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่ง รวมถึง เจสสิกา ฮินด์ส (Jessica Hinds) กล่าวว่า ผลกระทบของวิกฤตโควิดระลอกนี้ ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์การระบาดจะรุนแรงมากน้อยเพียงใดในเยอรมนี แต่อย่างน้อย หากว่าเยอรมนีตัดสินใจล็อกดาวน์ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจของภูมิภาคโดยรวมเข้าสู่ภาวะซบเซาส่งท้ายปีทันที หลังจากที่สถานการณ์เศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่อยู่แล้ว เพราะสภาพภูมิอากาศที่คาดว่าจะหนาวรุนแรงมากกว่าทุกปี

วันเดียวกัน ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงเตือนให้ประชาชนทั่วโลกดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง พร้อมแนะให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อไปยังกลุ่มเสี่ยง แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้วก็ตาม

นอกจากนี้หากเป็นไปได้ยังคงต้องหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่ที่มีคนชุมนุมแออัดหนาแน่น หรือหากต้องอยู่ภายในอาคารให้เลือกสถานที่ที่มีระบบระบายอากาศอย่างดี

คำแนะนำดังกล่าวมีขึ้นหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ และมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่สำนักงานองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นยุโรป เตือนว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดในภูมิภาคนี้อาจเพิ่มขึ้นได้อีกถึง 700,000 คนในช่วงเวลา 4 เดือนจากนี้ หากไม่เร่งดำเนินแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่

ทั้งนี้ รายงานล่าสุดระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายชาติในยุโรปต่างออกโรงเรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์มากขึ้น

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH