ญัตติขอจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ไม่ผ่านความเห็นชอบในสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ส่งผลให้จอห์นสันพ่ายแพ้ในสภาสามัญชนเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ ส.ส. เพิ่งโหวตร่างกฎหมายขัดขวางการนำสหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง (No-Deal Brexit)
จอห์นสันต้องการเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. จำนวน 2 ใน 3 ของสภาฯ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติวาระรัฐสภาถาวร (Fixed Term Parliaments Act) จึงจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ แต่ปรากฏว่า มี ส.ส. เพียง 298 คน ที่โหวตเห็นชอบ ขณะที่ ส.ส. 56 คน โหวตคัดค้าน และมีสมาชิกสภา 288 คน ที่งดออกเสียง ทำให้ขาดเสียงสนับสนุนอีก 136 คะแนน
ความน่าจะเป็นก่อนถึงกำหนดเส้นตายเริ่มกระบวนการ Brexit ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้คือ สมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรจะผลักดันกฎหมายป้องกันไม่ให้เกิดกรณี No-Deal Brexit หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถบรรลุข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำ EU ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
เดิมทีจอห์นสันต้องการให้สหราชอาณาจักรจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่า พวกเขาจะโหวตสนับสนุนก็ต่อเมื่อร่างกฎหมายป้องกัน No-Deal Brexit ผ่านความเห็นชอบในสภาฯ แล้ว อย่างไรก็ตาม จอห์นสันระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวบีบให้เขาต้องขยายเวลาเส้นตาย Brexit ออกไปจากวันที่ 31 ตุลาคม หากไม่สามารถทำข้อตกลงฉบับใหม่กับ EU ได้ทัน ซึ่งส่งผลให้เขาไม่สามารถเจรจาต่อรองกับ EU ได้
สำหรับร่างกฎหมายใหม่กำหนดไว้ว่า นายกรัฐมนตรีมีเวลาจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม ในการนำข้อตกลงฉบับใหม่เข้าพิจารณาในรัฐสภาเพื่อลงมติรับรอง หรือให้สมาชิกสภาโหวตอนุมัติ No-Deal Brexit และเมื่อผ่านพ้นเส้นตายแล้ว นายกรัฐมนตรีจะต้องขอเลื่อนกำหนดการเริ่มต้นกระบวนการ Brexit ออกไปเป็นวันที่ 31 มกราคม 2020 แต่หากสหภาพยุโรปเสนอเปลี่ยนวัน นายกฯ จะมีเวลา 2 วัน ในการพิจารณารับข้อเสนอ ซึ่งในระหว่างนั้นสมาชิกรัฐสภามีอำนาจในการปฏิเสธกำหนดการใหม่ที่เสนอโดย EU ได้
นอกจากนี้ร่างกฎหมายใหม่ยังกำหนดให้บรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ยื่นรายงานต่อสภาสามัญชนตลอดช่วงหลายเดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม รายละเอียดในร่างกฎหมายฉบับนี้อาจมีการปรับแก้ได้ตลอดช่วง 2-3 วันข้างหน้า เนื่องจาก ส.ส. มีอำนาจในการแก้ไขกฎหมายได้ทุกฉบับ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
