การประชุมโลกร้อน COP29 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ปิดฉากลงแล้ว โดยหนึ่งในดีลที่สำคัญที่สุดในการประชุมครั้งนี้คือ ‘การกำหนดเป้าหมายใหม่ทางการเงิน’ (New Collective Quantified Goal on Climate Finance: NCQG) เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องจัดสรรเงินเพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความสามารถในการฟื้นตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เป็น 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในปี 2035
แม้เป้าหมายใหม่นี้จะดู ‘ท้าทายและทะเยอทะยานยิ่งขึ้น’ แต่ภาคีที่เป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนากลับมองว่าเป็นเป้าหมายที่ ‘ต่ำเกินไป’ และน้อยกว่าเม็ดเงินที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้จริงราว 3 เท่า อีกทั้งยังกำหนดเป้าหมายการระดมทุนโดยรวม 1,300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในปี 2035 ผ่านทั้งช่องทางการเงินสาธารณะและการลงทุนจากภาคเอกชนที่จะสามารถช่วยปลดล็อกทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
ที่ประชุม COP29 ยังผลักดัน ‘กองทุนเพื่อความสูญเสียและความเสียหาย’ (Loss and Damage Fund) ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยแต่งตั้ง Ibrahima Cheikh Diong ผู้แทนพิเศษของประธานธนาคารอาหรับเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในแอฟริกาเรื่อง ESG สัญชาติเซเนกัล-อเมริกันเป็น ‘ผู้อำนวยการบริหารกองทุนคนแรก’ วาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยจะเริ่มขับเคลื่อนกองทุนอย่างเป็นทางการในปี 2025 ซึ่งคาดว่ากองทุนจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินตามคำมั่นสัญญาที่ภาคีต่างๆ ได้ให้ไว้ในขณะนี้กว่า 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
COP29 ยังบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ ‘ตลาดคาร์บอน’ โดยมีการเสนอ ‘กลไกการให้เครดิตตามข้อตกลงปารีส’ (Paris Agreement Crediting Mechanism) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจสอบการซื้อขายในตลาดคาร์บอน และมีส่วนช่วยให้ภาคีต่างๆ จัดทำแผนสภาพภูมิอากาศของตนได้รวดเร็วและประหยัดยิ่งขึ้น และจะมีส่วนทำให้เกิดความคืบหน้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลดลงครึ่งหนึ่งภายในทศวรรษนี้
นอกจากนี้ COP29 ยังบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ ‘การรายงานและการปรับตัวด้านสภาพภูมิอากาศ’ ที่มีความโปร่งใส โดยกำหนดแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในประเด็นนี้ ซึ่งทุกภาคีจะต้องจัดทำรายงานความโปร่งใสรายสองปี (BTR) อีกทั้งทุกภาคียังมีกำหนดส่ง ‘การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด’ (Nationally Determined Contributions: NDCs) ฉบับใหม่ในปี 2025 อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา
อ้างอิง: