เว็บไซต์ข่าวสถานีโทรทัศน์ CNN รายงานผลการสำรวจของ Bank of America ที่พบว่าสังคมอเมริกันในขณะนี้มีช่องว่างรายได้ระหว่างวัย ซึ่งส่งผลต่อการใช้จ่ายและการใช้ชีวิตของชาวอเมริกันในแต่ละช่วงวัย โดยผลการศึกษาพบว่ามี ‘ช่องว่างที่สำคัญ’ ในการใช้จ่ายระหว่างคนรุ่นเก่ากับเด็กรุ่นใหม่
รายงานระบุว่า ขณะที่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์และแม้แต่กลุ่มอนุรักษนิยม (เกิดปี 1928-1945) กำลังเพิ่มการใช้จ่าย แต่กลุ่ม Gen X, Gen Z และ Millennials กำลังลดจำนวนการใช้จ่ายลง เนื่องจากต้องต่อสู้กับค่าที่อยู่อาศัยที่สูงและการชำระหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา
David Tinsley นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Bank of America Institute กล่าวว่า ตัวเลขที่เกิดขึ้นค่อนข้างผิดปกติ โดยเขาพบว่าการใช้จ่ายในครัวเรือนอเมริกันลดลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม แต่เมื่อดูลึกลงไปในรายละเอียดจะพบความต่างด้านการใช้จ่ายของแต่ละช่วงวัย โดยการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 5.3% สำหรับกลุ่มอนุรักษนิยม และ 2.2% สำหรับกลุ่มเบบี้บูมเมอร์
ในทางตรงกันข้าม สำหรับคนอเมริกันรุ่นใหม่ การใช้จ่ายกลับลดลงประมาณ 1.5% เรียกได้ว่าในขณะที่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์กำลัง Happy และ Enjoy Life อย่างกิน ดื่ม เที่ยวถ้วนหน้า คนหนุ่มสาวชาวมะกันต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง
Tinsley ระบุว่า หากไม่ใช่เพราะการใช้จ่ายเชิงรุกของเบบี้บูมเมอร์ การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ โดยรวมน่าจะติดลบมากขึ้น โดยเหตุผลหลักที่ทำให้ชาวอเมริกันสูงวัยเพิ่มการใช้จ่ายเนื่องจากได้รับประโยชน์จากการชำระเงินประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคม ผู้รับเงินประกันสังคมได้รับการปรับค่าครองชีพ 8.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1981 ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้เงินที่ผู้เกษียณอายุจะได้รับเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 146 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ข้อมูลการใช้จ่ายของ Bank of America ยังแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากครัวเรือนที่ได้รับค่าครองชีพเพิ่มขึ้น (Cost of Living Boost) อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของชาวอเมริกันสูงอายุกำลังเกิดขึ้นในหมู่ครัวเรือนที่มีรายได้สูงเช่นกัน และผู้บริโภคเหล่านี้มีโอกาสน้อยที่จะได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ Bank of America ประเมินว่า การใช้จ่ายที่ลดลงของคนหนุ่มสาวอเมริกันส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากต้นทุนที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งอัตราค่าเช่า ราคาบ้าน และอัตราดอกเบี้ยจำนอง ต่างขยับปรับตัวพุ่งสูงขึ้น
นอกเหนือจากค่าครองชีพที่สูงแล้ว Bank of America ยังพบว่าคนอเมริกันอายุน้อยจำนวนมากยังมีแนวโน้มที่จะมีภาระผูกพันในการจ่ายหนี้รายเดือนที่สำคัญอย่างหนี้กู้ยืมทางการศึกษา
โดยข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ระบุว่า หนี้กู้ยืมทางการศึกษาของชาวอเมริกันในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และหนี้ของนักเรียนส่วนใหญ่ถือโดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 49 ปี ดังนั้นสำหรับ Gen Z และ Millennials หลายล้านคน การกลับมาชำระหนี้กู้ยืมทางการศึกษาจึงทำให้มีเงินน้อยลงสำหรับการใช้จ่ายในร้านอาหารและการพักผ่อน
อ้างอิง:
