ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอเมริกันประจำเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 เดือน เนื่องจากชาวอเมริกันโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุมองตลาดแรงงานในแง่ร้ายมากขึ้น นอกเหนือไปจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ The Conference Board รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 พฤษภาคม) ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ 102.3 ในเดือนพฤษภาคม จาก 103.7 ในเดือนเมษายน อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอเมริกันยังปรับตัวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99.0
ขณะเดียวกัน ในส่วนของดัชนีสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งวัดการประเมินผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจปัจจุบันและสภาวะตลาดแรงงาน ลดลงเหลือ 148.6 จาก 151.8 ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ดัชนีความคาดหวังของคณะกรรมการซึ่งเป็นมาตรวัดแนวโน้มรายได้ ธุรกิจ และสภาพแรงงานในช่วง 6 เดือนของผู้บริโภค ลดลงเหลือ 71.5 ในเดือนพฤษภาคม จาก 71.7 ในเดือนเมษายนก่อนหน้า
รายงานอธิบายว่า ค่าของตัวเลขที่ต่ำกว่า 80 มักจะส่งสัญญาณถึงภาวะถดถอยในปีหน้า โดยทาง The Conference Board ตั้งข้อสังเกตว่าดัชนีความคาดหวังอ่านค่าต่ำกว่า 80 ทุกเดือนมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
Ataman Ozyildirim ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจของ The Conference Board กล่าวว่า “ในขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในทุกช่วงอายุและรายได้ลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การลดลงของเดือนพฤษภาคมสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดในหมู่ผู้บริโภคชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 55 ปี”
ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ในความพยายามที่จะระบายความร้อนทางเศรษฐกิจและลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องในรอบกว่า 10 ปี
รายงานของ The Conference Board มีขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งจะเปิดเผยรายงานว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 0.8% ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.2% เหนือสิ่งอื่นใด ชาวอเมริกันยังซื้อคอมพิวเตอร์ น้ำมัน และเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายน และตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดได้ให้หลักฐานบางอย่างที่ทำให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ร้านขายของชำ ขณะที่ราคาสำหรับบริการบางอย่าง รวมถึงค่าโดยสารของสายการบินและห้องพักในโรงแรมก็ลดลงเช่นกัน
The Conference Board ตั้งข้อสังเกตว่าการประเมินของผู้บริโภคเกี่ยวกับสภาพการจ้างงานในปัจจุบันพบว่าลดลงอย่างมาก แม้ว่าตลาดแรงงานจะยังคงมีความยืดหยุ่นเมื่อเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บรรดานายจ้างในสหรัฐฯ จ้างงานเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.4% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 54 ปี แต่อัตราการว่างงานลดลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีคน 43,000 คนออกจากกำลังแรงงาน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และไม่นับเป็นผู้ว่างงานอีกต่อไป
แม้ว่าการจ้างงานจะแข็งแกร่งในเดือนเมษายน แต่ก็อ่อนแอมากในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม โดยมากกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนเหล่านั้นถูกลดระดับลงโดยรวม 149,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ทาง The Conference Board ยังกล่าวว่า จำนวนผู้ตอบแบบสำรวจที่วางแผนที่จะซื้อบ้านในอีก 6 เดือนข้างหน้านั้นอยู่ในระดับที่ต่ำคงที่เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเล็กน้อยที่วางแผนจะซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าหลัก
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค, ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
อ้างอิง: