วันนี้ (1 พฤศจิกายน) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดอยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส. บัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้ความเป็นสมาชิกสิ้นสุดลง
และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่ง สส. ว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2)
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ซึ่งพิธายื่นขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนพิจารณามาแล้วจำนวน 12 ครั้ง เรียกให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานจำนวน 12 คน ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้รอคำชี้แจงและพยานหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งศาลเรียกไปก่อนหน้านี้ และเรียกให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งคำชี้แจงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย แล้วกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น.
นอกจากนี้ รวมถึงคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่
ต่อมาพิธาและพรรคก้าวไกลยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีระบุพยานบุคคล ฉบับลงวันที่ 9 ตุลาคม 2566 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนพิจารณาและรวบรวมพยานหลักฐานมาแล้วจำนวน 37 ครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ แล้วกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น.