วันนี้ (10 กันยายน) ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยคำร้องที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) โดยผลการพิจารณา มีประเด็นที่พิจารณาตามลำดับ ดังนี้
ประเด็นที่หนึ่ง ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 รัฐสภา มีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (5 ต่อ 2) วินิจฉัยว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน
ทั้งนี้ การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติ หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งรัฐสภา
มีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 5 คน คือ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, อุดม สิทธิวิชธรรม, วิรุฬห์ แสงเทียน, จิรนิติ หะวานนท์ และ นภดล เทพพิทักษ์
ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 2 คน คือ บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ และ สุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รัฐสภาไม่มีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เว้นแต่จัดให้มีการออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ประเด็นที่สอง การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติกี่ครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (6 ต่อ 1) วินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องจัดให้ประชาชน ออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง ได้แก่
ครั้งที่ 1 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
ครั้งที่ 2 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่ามีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร
และครั้งที่ 3 ภายหลังรัฐสภาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่า เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
อนึ่ง การออกเสียงประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้
สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 6 คน คือ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, วิรุฬห์ แสงเทียน, จิรนิติ หะวานนท์, นภดล เทพพิทักษ์, บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ และ สุเมธ รอยกุลเจริญ ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ อุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า
การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคราวประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 6 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม 2568 ได้พิจารณาญัตติด่วน กรณีที่ นพ. เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอให้รัฐสภาพิจารณามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2)
โดยผลการลงมติในญัตติดังกล่าวว่า ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นด้วยให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามญัตติ ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ประธานรัฐสภาส่งเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย