โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย จัดงานเสวนาโต๊ะกลม พบปะพูดคุยกับสื่อไทยช่วงเช้าวันนี้ (27 มิถุนายน) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนานกว่า 9 เดือน โดยเริ่มต้นการเสวนาด้วยการกล่าว “สวัสดีครับ” ทักทายสื่อไทย พร้อมทั้งเล่าว่าตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาได้เดินทางไปทั่วประเทศไทย ตั้งแต่เชียงรายถึงยะลา และได้เห็นความสวยงามของวัฒนธรรมไทย ตลอดจนมารยาทอันงดงามและความอบอุ่นของคนไทย ขณะที่ย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนานกว่า 190 ปี
ระหว่างการเสวนา เอกอัครราชทูตโกเดคได้กล่าวถึงหลายประเด็นความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ทั้งด้านการค้า-การส่งออก, การศึกษา, การวิจัย และสาธารณสุข
นอกจากนี้ยังได้แสดงความยินดีต่อการเลือกตั้งของไทย พร้อมปฏิเสธข่าวลือเรื่องการสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และการแทรกแซงการเลือกตั้งและนโยบายรัฐบาลใหม่ของไทย โดยเอกอัครราชทูตโกเดคยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนผู้สมัครคนใดหรือพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ และสนับสนุนเพียงกระบวนการประชาธิปไตย ขณะที่ชี้ว่า ทฤษฎีสมคบคิดและข่าวลือเท็จเหล่านี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับคนไทยนับ 10 ล้านคน ที่เข้าร่วมกระบวนการทางการเมืองในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง และผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง
“สหรัฐฯ ไม่มีผู้สมัครที่ชอบเป็นพิเศษ เราไม่มีพรรคการเมืองที่ชอบเป็นพิเศษในประเทศไทย สิ่งที่เราทำคือสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย คนไทยเท่านั้นที่ควรเลือกว่าใครเป็นผู้ปกครอง และผมต้องการให้ความชัดเจนอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ไม่มีการแทรกแซงจากสหรัฐฯ” เอกอัครราชทูตโกเดคกล่าว
ขณะท่ี่เขายังตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับนโยบายการทูตแบบอะลาคาร์ต (À la carte) หรืออาหารจานเดียวที่พิธาเคยกล่าวไว้ ซึ่งไม่ใช่การทูตแบบบุฟเฟต์ หรือการดำเนินนโยบายการทูตแบบสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในทุกประเด็น ซึ่งเอกอัครราชทูตโกเดคกล่าวว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอก เพราะว่าไทยยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่
สำหรับกรณีข่าวการตั้งฐานทัพสหรัฐฯ ในไทยนั้น เอกอัครราชทูตโกเดคยืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่มีการตั้งฐานทัพในไทยแต่อย่างใด
ส่วนกรณีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลใหม่ของไทยอาจเอนเอียงไปทางสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก เขายืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ทำงานกับรัฐบาลไทยหลายชุดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทางไปเยือนทำเนียบขาวเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ หลายคนก็เดินทางมาเยือนไทย เช่น รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส, รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีกลาโหม และสหรัฐฯ มีความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในหลายด้าน
ขณะที่ความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ของไทย เอกอัครราชทูตโกเดคกล่าวว่า เขาคาดหวังที่จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลไทยชุดใหม่ ภายหลังจากที่ได้รับเลือกผ่านกระบวนการที่กำหนดไว้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
โดยเขายังคาดหวังให้ดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแถลงการณ์เชิงกลยุทธ์ ที่ไทยและสหรัฐฯ ลงนามร่วมกันไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ระหว่าง ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำเรื่องการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน และการพบปะกันระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ
สำหรับประเด็นบทบาทผู้นำของไทยในอาเซียนนั้น เขายืนยันว่า สหรัฐฯ ให้ความเคารพต่อความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาค และความเป็นผู้นำของไทยในฐานะหนึ่งในประเทศที่ร่วมก่อตั้งอาเซียน พร้อมทั้งเน้นย้ำบทบาทสำคัญของไทยในประเด็นสถานการณ์เมียนมา ที่รัฐบาลทหารกำลังโจมตีประชาชนของตนเอง ซึ่งเขาคิดว่ามีโอกาสที่ไทยและสหรัฐฯ จะสานต่อความร่วมมือเชิงลึกในประเด็นนี้
