วันนี้ (25 สิงหาคม) เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91)
สำหรับมาตรา 83 เป็นมาตราที่ถูกจับตามองมากที่สุด เนื่องจากในชั้นกรรมาธิการได้ปรับแก้ไขสัดส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จาก 500 คน ที่มาจากการแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 คน และแบบแบ่งบัญชีรายชื่อ 150 คน เป็นแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยให้ใช้บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบละ 1 ใบ
ซึ่งในมาตราดังกล่าวได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ต่างต้องการให้แก้ไขสัดส่วน ส.ส. ให้เป็นแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ตามการปรับแก้ของคณะกรรมาธิการ โดยเสียงข้างน้อยที่ยังคงยืนยันให้มี ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน ตามเดิม คือพรรคก้าวไกลและพรรคเสรีรวมไทย ที่เห็นว่า ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ จะสามารถลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้ทุกเขตพื้นที่โดยไม่มีข้อทับซ้อนกับ ส.ส. ในเขตเลือกตั้ง ขณะเดียวกันการเพิ่มจำนวน ส.ส. แบ่งเขตเลือกตั้ง อาจส่งผลให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันซื้อสิทธิ์ขายเสียงด้วย
ขณะที่การลงมติเป็นไปตามคาด ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีมติเห็นชอบการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในมาตรา 83 ให้เป็นไปตามการแก้ไขของคณะกรรมาธิการ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 476 เสียง ไม่เห็นด้วย 70 เสียง งดออกเสียง 91 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
สำหรับการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 91 เรื่อง การคํานวณหา ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ในชั้นกรรมาธิการได้พิจารณาปรับแก้ให้การคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่ให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับจากการเลือกต้ังมารวมกันทั้งประเทศแล้วคำนวณ เพื่อแบ่งจำนวนผู้ท่ีจะได้รับเลือกของแต่ละพรรคการเมืองเป็นสัดส่วนท่ีสัมพันธ์กันโดยตรงกับจำนวนคะแนนรวม โดยให้ผู้สมัครรับเลือกต้ังซึ่งมีรายช่ือในบัญชีรายช่ือของแต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตามเกณฑ์
ซึ่งในประเด็นกล่าว ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายแสดงความเห็น และเสนอสูตรในการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่ออย่างหลากหลาย อาทิ รังสิมันต์ โรม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เสนอให้มีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำในการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่ 0.2% หรือ 70,000 คะแนน เป็นการเปิดโอกาสให้กับพรรคการเมืองที่มีขนาดเล็ก
ทั้งนี้ ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้มีมติเห็นชอบวาระที่ 2 ในการปรับแก้สูตรคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งให้ยืนตามการแก้ไขของคณะกรรมาธิการ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 435 เสียง ไม่เห็นด้วย 76 เสียง และงดออกเสียง 85 เสียง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการลงมติในวาระที่ 2 เสร็จสิ้นแล้วจะต้องรออีก 15 วัน เมื่อพ้น 15 วันแล้ว ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจึงจะพิจารณาลงมติในวาระที่ 3 ได้
