วันนี้ (11 ธันวาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เมื่อพิจารณาถึงมาตรา 256/21 ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่ง เบี้ยประชุม และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ
รัชนีกร ทองทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะกรรมาธิการฯ ผู้สงวนความเห็น อภิปรายว่า ตนเองเคยเสนอให้ตัดเงินประจำตำแหน่งออก ให้เหลือเพียงเบี้ยประชุม และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น เพราะอาจทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า การตั้งกรรมาธิการตามสูตร 20 หยิบ 1 จะเป็นการให้ประโยชน์ต่างตอบแทน
รัชนีกรระบุว่า ในระยะเวลา 1 ปี กับกรรมาธิการ 35 คน รวมถึงกรรมาธิการรับฟังความเห็น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน อีก 35 คน รวมเป็น 70 คน เป็นจำนวนไม่น้อยเลยกับเงินของประเทศชาติ หากมีเงินประจำตำแหน่งเข้าไปอีก แปลว่ารัฐบาลจะต้องเสียเงินแค่ไหนกับการร่างรัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ
“ดิฉันได้ข้อมูลว่า แค่เบี้ยประชุมของกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่แล้ว งบสูงถึง 800 ล้านบาท ประชาชนทราบหรือเปล่า แล้วในที่ประชุมมีการพูดว่า ให้ตัดเงินประจำตำแหน่งออก แต่ไปปรับเบี้ยประชุมให้สูงขึ้น ของเดิมให้ครั้งละ 6,000 บาท แต่ครั้งนี้สามารถไปกำหนดในกฤษฎีกาได้ ว่าอาจจะให้สูงขึ้นถึงครั้งละ 10,000 บาท” รัชนีกรกล่าว
รัชนีกรเสนอให้ สส. และ สว. ที่ได้รับเงินเดือนอยู่แล้ว จากภาษีของประชาชน ไปเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ เราก็ไม่ต้องเสียเงินประจำตำแหน่งให้อีก น่าจะประหยัดงบประมาณชาติได้มากกว่า แต่หากนำบุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาเข้ามา ต้องคิดให้รอบด้านว่าเราต้องเสียเท่าไร ทุกวันนี้มีการตัดงบประมาณภัยพิบัติ งบประมาณโรงพยาบาล งบของทหาร แต่กลับมาเพิ่มงบอย่างไม่ระมัดระวังกับการแก้รัฐธรรมนูญ
“ในเมื่อท่านไม่เอาสมาชิกรัฐสภามาทำ ท่านเอาบุคคลภายนอกมาด้วยสูตร 20 หยิบ 1 เท่ากับว่าท่านเอาพวกของท่านเข้ามารับประโยชน์จากการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ใช่หรือไม่ ดิฉันขอให้ท่านทบทวน ประชาชนจะเห็นว่า ท่านกำลังเอาพวกเดียวกันเองมารับเงินของชาติใช่หรือไม่”
ต่อมา นพ. ทศพร เสรีรักษ์ สส. แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากที่ได้ฟังท่านรัชนีกรมาตลอด 1 วันเต็ม เพิ่งจะมีมาตรานี้ที่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ว่าควรประหยัดงบประมาณของแผ่นดินไปใช้ให้เกิดประโยชน์
จากนั้น ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า เรื่องที่รัชนีกรอภิปรายไว้ ไม่ตรงกับประเด็นที่สงวนความเห็นไว้ ก่อนอธิบายว่า ในกรอบระยะเวลาการทำงานของคณะกรรมาธิการทั้ง 2 ชุด คือเกือบ 1 ปี หรือกว่า 360 วัน เราคาดหวังการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและเต็มเวลา โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ ที่ต้องออกไปลงพื้นที่ จึงจำเป็นต้องมีค่าตอบแทน
ณัฐวุฒิกล่าวว่า กรรมาธิการฯ เห็นตรงกันว่า ควรตัดเงินประจำตำแหน่งออกจากร่างเดิม เพราะมีจำนวนสูง และจ่ายนอกเหนือจากที่มาทำหน้าที่ ส่วนเบี้ยประชุมนั้น ในชั้นกรรมาธิการไม่เคยมีการเสนอว่าสูงถึง 10,000 บาท สำหรับผลประโยชน์อื่นๆ อาจเป็นรูปแบบของค่าเดินทาง ค่าพาหนะ หรืออื่นๆ ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไร แต่จะระบุไว้ในกฤษฎีกา และจะดำเนินการอย่างรอบคอบเหมาะสมที่สุด
ส่วนที่อ้างว่า มีการตัดงบประมาณส่วนอื่น เช่น งบสาธารณสุขนั้น ณัฐวุฒิระบุว่า กรรมาธิการฯ คงไม่สามารถตอบในส่วนนี้ได้ แต่ขอให้ สส. ฝ่ายรัฐบาลช่วยยืนยันว่า มีการตัดงบประมาณเช่นนั้นจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า การตั้งกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่ผลประโยชน์ต่างตอบแทนแต่อย่างใด
ในที่สุด ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขของกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 436 เสียง ไม่เห็นชอบ 8 เสียง งดออกเสียง 9 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง
