วันนี้ (22 มกราคม) ที่อาคารรัฐสภา กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกรรมาธิการฯ กรณีเชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงการแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ รวมถึงแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex
กรวีร์กล่าวว่า ประเด็นเว็บพนันมีปัญหาคือมีการเปิด ตามจับ และปิดเว็บ ทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเมื่อมีการปิดไปแล้วไปตั้งใหม่ได้โดยเร็ว กรรมาธิการฯ จึงฝากประเด็นนี้ไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่จะแก้ไขกฎกระทรวงหรือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อจัดการกรณีพบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งจะทำให้ปิดเว็บหรือแก้ไขปัญหาได้โดยเร็ว
กรวีร์กล่าวต่อไปว่า ตัวแทนกระทรวงมหาดไทยชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ ว่ามีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อหาแนวทางศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องที่การพนันออนไลน์จะทำอย่างไรหากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความชัดเจนว่าจะทำการพนันออนไลน์ให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะหาแนวทางรองรับและเสนอกลับไปยังคณะรัฐมนตรี
“คณะกรรมาธิการฯ ฝากความห่วงใยพูดคุยกันใน 2 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นแรก เรื่องการแก้ไขกฎหมายรอง ไม่ว่าจะเป็นกฎกระทรวง เพื่อให้มีการขออนุญาตการเปิดพนันออนไลน์ได้ โดยฝากว่าควรต้องมาพร้อมกับการควบคุม การป้องกัน เราไม่อยากเห็นหากมีการเปิดให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายจริง ไม่อยากเห็นเว็บเถื่อนหรือการพนันที่ผิดกฎหมายเต็มไปหมดในประเทศไทย อยากให้เกิดการจับกุมและกวาดล้างที่เข้มงวด บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด” กรวีร์กล่าว
กรวีร์กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเรื่องของร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เจตนาการสร้าง Entertainment Complex คือต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ แต่ไม่ได้ต้องการให้คนไทยเข้าไปใช้บริการ จึงตั้งเงื่อนไขกรณีการเข้าสำหรับคนไทยเริ่มต้น 5,000 บาท ทั้งนี้ เนื้อหากฎหมายยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้สรุปออกมา พร้อมทั้งกำหนดคณะกรรมการตามกฎหมาย กำหนดรายละเอียดต่อไป
“สิ่งที่กรรมาธิการฯ สอบถามและเป็นความกังวลเกี่ยวกับประชาชนส่วนใหญ่คืออยากจะแก้ปัญหาเรื่องการพนัน จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อมีการพนันออนไลน์แล้ว ปัญหาการพนันอื่นจะลดลง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อมี Entertainment Complex ปัญหาการพนันต่างๆ ในประเทศจะลดลงไปด้วย ซึ่งทุกหน่วยงานที่มาตอบเหมือนกันหมดว่าไม่คิดว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องการพนันในปัจจุบันได้ ซึ่งต้องไปบังคับใช้กฎหมายต่อไป” กรวีร์กล่าว
ส่วนความเป็นไปได้ในการนำผู้ประกอบการเว็บพนันออนไลน์นอกระบบมาเข้าระบบ กรวีร์กล่าวว่า ยอมรับว่าทุกวันนี้มีเว็บพนันที่ผิดกฎหมายทั้งหมด แต่มุมรัฐบาลเห็นว่าเมื่อนำเรื่องนี้เข้ามาเพื่อควบคุมและสร้างรายได้ให้ประเทศ หมายความว่าคนเหล่านี้ต้องมาขึ้นทะเบียนขออนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนรายละเอียดว่าจะขอแบบใดหรือช่องทางใด ทางกระทรวงมหาดไทยยังไม่มีรายละเอียดให้
อย่างไรก็ตาม ทางกรรมาธิการฯ มีข้อกังวลว่าปัญหาเดิมก็ไม่หมด ปัญหาใหม่ก็ตามมาด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องคอยดูต่อไปว่ากฎหมายหรือกฎกระทรวงที่จะออกมาบังคับใช้จะเป็นอย่างไร
กรวีร์ยังระบุอีกว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการฯ ได้พูดคุยกันเรื่องนิยามของคำว่า ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ ซึ่งมีการแซวกันว่าทำไมไม่ตั้งชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.คาสิโน ไปเลย ซึ่งทางกระทรวงการคลังชี้แจงว่า กฎหมายที่ยกร่างมาจากผลการศึกษาของสภาที่เคยศึกษาและมีข้อแนะนำมา ซึ่งกรรมาธิการฯ เห็นว่าหากจะทำ ควรตอบโจทย์ ไม่อยากให้รัฐบาลมองประโยชน์เพียงด้านเดียวหรือมองมิติด้านเศรษฐกิจที่กระตุ้นการท่องเที่ยว การสร้างรายได้ให้กับประเทศเพียงอย่างใด เพราะไม่ทราบสิ่งที่รัฐบาลคาดหวังจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
กรรมาธิการฯ ยังฝากประเด็นไปว่าต้องการให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมที่จะตามมาด้วย เพราะต้องมีความรอบคอบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลคาดหวังรายได้จากคาสิโนเข้ารัฐ แต่ในร่างกฎหมาย Entertainment Complex กลับกำหนดให้รายได้อยู่ที่เพียงสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร รายได้ไม่ได้เข้าคลังของแผ่นดิน
กรวีร์กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ได้ซักถามกับทางกรมสรรพากรและกระทรวงการคลัง ซึ่งชี้แจงว่ารายได้ของรัฐไม่ใช่ว่าจะได้จากเพียงแค่ค่าธรรมเนียมขอใบอนุญาตเท่านั้น แต่เมื่อผู้ประกอบการมีรายได้ต้องเสียภาษี ซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่แล้วว่าต้องเสียภาษีให้กับรัฐ ทางกรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไม่เสนอเก็บค่าต๋ง มีคนเล่นจำนวนเท่าใด รัฐก็จะได้ผลประโยชน์จากจุดนี้ ซึ่งคิดว่าหลังร่าง พ.ร.บ. ออกมาบังคับใช้ ก็จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มเติมออกจากกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยืนยันว่ารายได้ของรัฐไม่ใช่ได้มาจากเพียงแค่ค่าใบอนุญาตเท่านั้น