วันนี้ (17 พฤศจิกายน) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ BACC เขตปทุมวัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลศิลปะกรุงเทพมหานคร Colorful Bangkok 2023
ชัชชาติกล่าวว่า เทศกาลศิลปะกรุงเทพมหานคร หรือ Colorful Bangkok 2023 เป็นความตั้งใจที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวบรวมคนทำงานด้านศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ในกรุงเทพฯ มาอยู่ในเทศกาลเดียวกัน ซึ่งเริ่มครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา โดยตั้งใจจัดในช่วงปลายปีต่อต้นปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ที่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ขับเน้นกิจกรรมทางศิลปะและผลงานด้านความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งคนไทยมีฝีมือไม่น้อยหน้าชาติใดๆ มาแสดงและเฉลิมฉลองกันในช่วงเวลานี้ด้วย
เทศกาลนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย 12 เดือน 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ เป็นเดือนที่เป็นการรวบรวมเทศกาลช่วงต้นปีและปลายปีเข้าด้วยกัน กลายเป็นเทศกาลศิลปะกรุงเทพมหานครที่รวมเรื่องศิลปะทุกแขนง ดนตรี แสง สี และศิลปะชุมชน ตลอดจนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อย่างเช่น เทศกาลลอยกระทง รวมถึงงานเคานต์ดาวน์ช่วงปีใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ถือเป็นฤดูกาลที่กรุงเทพฯ จะเต็มไปด้วยสีสันต่างๆ
นอกจากนี้เทศกาลนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของ Thailand Winter Festivals ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย
ชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับงาน Thailand Winter Festivals และ Colorful Bangkok 2023 ของกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่แค่เพียงอีเวนต์ที่จัดขึ้นแล้วจบไปเท่านั้น ส่วนตัวเห็นว่างานนี้มีหัวใจของการจัดงาน 4 เรื่องสำคัญ คือ
- เทศกาลนี้เป็น People Festival คือเทศกาลของประชาชน ที่จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในเทศกาล ทั้งผู้สร้างสรรค์ที่มีพื้นที่การแสดงออกและการมอบความสุข สนุกสนาน สู่ผู้ร่วมกิจกรรมตลอดเทศกาล
- เป็นการกระตุ้นให้เปิดพื้นที่สาธารณะจากภาครัฐ ให้ทุกคนออกจากบ้านมาร่วมกิจกรรม ออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ สร้างสีสันและชีวิตชีวาให้กับประเทศไทย
- เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายพันล้านบาทและสร้างรายได้ให้กับประเทศ
- Colorful Bangkok 2023 มีกิจกรรมศิลปะและกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมกระจายไปยังเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร จึงจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy และสนับสนุนให้เกิดการสร้าง Soft Power ให้กับชุมชน รวมทั้งเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในพื้นที่นั้นๆ
ชัชชาติกล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นศิลปวัฒนธรรมให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครสร้างสรรค์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ อย่างยั่งยืนต่อไป
ด้วยหัวใจของเทศกาลทั้ง 4 ข้อนี้ทำให้งาน Thailand Winter Festivals และ Colorful Bangkok 2023 เป็นเทศกาลของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง
วัตถุประสงค์ของเทศกาล Colorful Bangkok มีขึ้นเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานทางด้านศิลปะหลากหลายแขนงสู่สาธารณชน เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกเพศทุกวัย ได้มีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมหรืองานด้านศิลปะ
นอกจากนี้ยังจัดเทศกาลนี้เพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ด้วยศิลปะและวัฒนธรรมของกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้กับคนกรุงเทพฯ
ชัชชาติกล่าวต่ออีกว่า ในปีที่แล้ว Colorful Bangkok 2022 เราเริ่มต้นจากการชักชวนคนทำงานศิลปะและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้านต่างๆ ที่กำลังทำกิจกรรมในช่วงปลายปีต่อต้นปีมารวมอยู่ในร่มเดียวกัน แล้วประชาสัมพันธ์ร่วมกันในนาม Colorful Bangkok 2022 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพี่น้องศิลปิน หน่วยงาน มิวเซียม และแกลเลอรีต่างๆ มีการตอบรับเข้าร่วมเทศกาลนี้
ประกอบด้วย นิทรรศการศิลปะ, ศิลปะการแสดง, การจัดฉายภาพยนตร์ และกิจกรรมเชิงศิลปวัฒนธรรมอื่นๆ รวมกว่า 200 กิจกรรม โดยทุกภาคส่วนช่วยกันสร้างผลงานที่น่าประทับใจ จนทำให้เทศกาลนี้กลายเป็นที่จดจำ โดยใช้ความหลากหลายของกิจกรรม ศิลปะ และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม มาสร้างสีสันให้กับเมืองหลวงแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในพื้นที่นั้นๆ
กรุงเทพมหานครจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นศิลปวัฒนธรรมให้กรุงเทพมหานครเป็น ‘มหานครสร้างสรรค์’ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ อย่างยั่งยืนต่อไป
ชัชชาติกล่าวในตอนท้ายว่า ขอประกาศเริ่มต้นเทศกาลศิลปะกรุงเทพมหานคร 2566 หรือ Colorful Bangkok 2023 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอเรียนด้วยความภูมิใจว่า ปีนี้เทศกาลของเราเติบโตขึ้น มีความสนุกสนานมากขึ้น มีเครือข่ายและองค์กรต่างๆ เข้ามาร่วมมากขึ้น ต้องขอบอกว่าคนทำงานด้านศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของไทยมีความสามารถไม่แพ้ใคร
“วันนี้ถือว่าเป็นอีกครั้งที่เรามารวมตัวกันโดยมีทางกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพ ให้กรุงเทพมหานครได้ถูกแต้มสีสันด้วยงานศิลปะ และคนกรุงเทพฯ ได้เฉลิมฉลองไปด้วยกัน รวมทั้งให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เห็นความร่วมแรงร่วมใจของเราตลอดเดือนพฤศจิกายน 2566 – มกราคม 2567” ชัชชาติกล่าว