เมื่อช่วงเช้ามืดของวานนี้ (9 เมษายน) เกิดเหตุอาคารถล่มในเมืองมาร์แซย์ (Marseille) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสจากแรงระเบิดใหญ่ โดยเช้านี้เจ้าหน้าที่ประกาศว่าพบร่างของผู้เสียชีวิต 2 คนใต้ซากอาคาร ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาด้วยความหวังว่ายังอาจมีผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุใหญ่ในครั้งนี้
ทีมกู้ภัยและหน่วยฉุกเฉินได้เร่งปฏิบัติการตลอดช่วงค่ำคืนวานนี้จนถึงเช้าวันจันทร์ โดยได้มีการส่งรถเครนเข้าไปช่วยรื้อถอนซากอาคาร อย่างไรก็ตาม ไฟที่ยังคงลุกไหม้อยู่ใต้ซากปรักหักพังถือเป็นอุปสรรคสำคัญของเจ้าหน้าที่ เพราะทำให้พวกเขาไม่สามารถส่งสุนัขเข้าไปดมกลิ่นเพื่อค้นหาผู้ที่ยังอาจรอดชีวิตได้ จึงทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือมีแนวโน้มที่จะใช้เวลานาน
โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 100 ชีวิตได้เข้าดับไฟที่ลุกท่วมซากปรักหักพัง โดย โรแลนด์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น La Provence ว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่เวลาราว 00.40 น. ของวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตัวเขาพร้อมด้วยภรรยาและลูกอีก 2 คนรีบหนีตายออกมาจากตึกได้ก่อนที่มันจะพังถล่มลงมาพร้อมกับอาคารที่อยู่ติดกันอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเขาอยู่ในอาการโศกเศร้าเนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัวถูกฝังอยู่ใต้ซากอาคาร แม้แต่บัตรประชาชนก็ไม่ได้นำติดตัวมาด้วย
นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงอีก 5 คน แต่เจ้าหน้าที่เผยว่าบาดแผลไม่ได้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตาม ทางการฝรั่งเศสยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิดที่แน่ชัด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดเพราะเหตุแก๊สรั่วหรือไม่ เพราะผู้ที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งอยู่ในอาคารใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุเล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นจนสะดุ้งตื่น และได้กลิ่นแก๊สที่รุนแรงมาก
เพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงแล้วราว 200 คน ขณะที่มี 50 คนที่ทางการขอให้ย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราวโดยด่วน และตอนนี้มีการเปิดศูนย์ช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ตามหาสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลอันเป็นที่รักที่หายไปในเขตใกล้เคียงด้วย
ภาพ: CLEMENT MAHOUDEAU / AFP
อ้างอิง:
