×

โคล พาลเมอร์ คือนักเตะที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ (หรือยัง?)

04.10.2024
  • LOADING...
โคล พาลเมอร์

HIGHLIGHTS

  • ตัวเลขสถิติการทำประตูและแอสซิสต์ของ โคล พาลเมอร์ เฉพาะในพรีเมียร์ลีกจากฤดูกาล 2023/24 จนถึงปัจจุบันจบเดือนกันยายนในฤดูกาล 2024/25 สูงถึง 43 ประตู
  • ในฤดูกาลนี้ ซึ่ง เอ็นโซ มาเรสกา บอสใหญ่คนใหม่ได้ปรับตำแหน่งของเขาจากการยืนตำแหน่งปีกขวามาเป็น ‘หมายเลข 10’ (แบบโมเดิร์น) ให้อิสระในการสร้างสรรค์เกมรุกอย่างเต็มที่
  • สิ่งที่ทำให้ ‘Cold’ (หรือจะ Goal ก็ได้แล้วแต่) พาลเมอร์ ‘พิเศษ’ ยิ่งขึ้นไปอีกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของตัวเลขสถิติการทำประตูหรือการทำแอสซิสต์ เพราะ ‘มิติการเล่น’ ของเขามีมากกว่านั้นมากมายนัก

19 นาที 57 วินาที สำหรับบางคนอาจเป็นระยะเวลาในการเดินไปร้านกาแฟเพื่อเติมคาเฟอีนให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอีกนิดสำหรับการทำงานในยามบ่าย (และขนมติดมืออีกนิดหน่อย)

 

แต่สำหรับ โคล พาลเมอร์ มันคือช่วงระยะเวลาที่เขาทำได้ถึง 4 ประตูในเกมระดับพรีเมียร์ลีก ทำลายเกมรับของไบรท์ตันแอนด์โฮฟอัลเบียนลงได้อย่างราบคาบ และทำให้จำนวนประตูรวมในฤดูกาลนี้หลังผ่านไป 6 นัดเขาทำได้ 6 ประตู – ไม่นับแอสซิสต์อีก 4 ครั้ง ที่ทำให้การมีส่วนร่วมกับประตู (Goal Involvements) ให้กับเชลซีรวมเป็น 10 ประตู

 

สำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษ พาลเมอร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักฟุตบอลดาวรุ่งระดับสตาร์แล้ว

 

แต่เขาได้กลายเป็น ‘ปรากฏการณ์’ (Phenomenon) ที่กลายเป็นคำถามสนุกๆ ที่เราจะแลกเปลี่ยนกันในวันนี้

 

โคล พาลเมอร์ คือนักเตะที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้แล้วหรือยัง?

 

 

เรามาบิดเข็มนาฬิกาย้อนเวลากลับไปในวันที่สตาร์ที่เป็นเด็กปั้นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจที่จะเก็บข้าวของย้ายออกมาผจญภัยตามหาเส้นทางของตัวเองในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว

 

1 ปีที่ผ่านมาพาลเมอร์ได้สร้างผลงานในระดับที่เรียกว่ามหัศจรรย์

 

ตัวเลขสถิติการทำประตูและแอสซิสต์ของเขาเฉพาะในพรีเมียร์ลีกจากฤดูกาล 2023/24 จนถึงปัจจุบันจบเดือนกันยายนในฤดูกาล 2024/25 สูงถึง 43 ประตู

 

โดยเราแบ่งเป็นฤดูกาล 2023/24 ยิงได้ 22 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ และในฤดูกาล 2024/25 ยิงได้ 6 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์

 

สถิตินี้สูงยิ่งกว่า เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ หัวหอกมหาประลัยของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ฤดูกาลที่แล้ว – ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 2 ในอังกฤษ – ทำไป 37 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ และแน่นอนว่าสูงกว่า โอลลี วัตกินส์ (23 ประตู 15 แอสซิสต์), โม ซาลาห์ (22 ประตู 14 แอสซิสต์), บูกาโย ซากา (17 ประตู 14 แอสซิสต์) และ ซนฮึงมิน (19 ประตู 12 แอสซิสต์)

 

ในความหมายคือวัดกันด้วยสถิติตัวเลขแล้ว พาลเมอร์คือ ‘ตัวรุกที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก’

 

พาลเมอร์จะทำประตูหรือแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูในทุก 73 นาที ซึ่งเป็นตัวเลขสถิติที่น่าเหลือเชื่อมาก และไม่ได้ดีที่สุดเฉพาะในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ยังดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมเชลซีสำหรับนักเตะที่ลงสนามในพรีเมียร์ลีกอย่างน้อย 50 นาที

 

แม้แต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด หรือ เอเดน อาซาร์ สองตำนานแห่งสแตมฟอร์ดบริดจ์ ก็ไม่สามารถเทียบกับสถิติของพาลเมอร์ในเวลานี้ได้ แม้ว่าซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของเดอะบริดจ์จะอยู่กับสโมสรมาเพียงแค่ 14 เดือนก็ตาม

 

 

 

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ ‘Cold’ (หรือจะ Goal ก็ได้แล้วแต่) พาลเมอร์ ‘พิเศษ’ ยิ่งขึ้นไปอีกนั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องของตัวเลขสถิติแค่การทำประตูหรือการทำแอสซิสต์

 

เพราะ ‘มิติการเล่น’ ของเขามีมากกว่านั้นมากมายนักครับ

 

สำหรับเชลซี พาลเมอร์คือหัวใจของเกมรุก โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ ซึ่ง เอ็นโซ มาเรสกา บอสใหญ่คนใหม่ได้ปรับตำแหน่งของเขาจากการยืนตำแหน่งปีกขวามาเป็น ‘หมายเลข 10’ (แบบโมเดิร์น) ให้อิสระในการสร้างสรรค์เกมรุกอย่างเต็มที่ โดยลงเล่นในตำแหน่งนี้ 5 จาก 6 นัด (ยุค เมาริซิโอ โปเชตติโน เขาได้ลงเล่นตำแหน่งนี้แค่ 12 นัดตลอดฤดูกาล)

 

นั่นเป็นการปลดล็อกพรสวรรค์ที่มีทั้งหมดในตัวของดาวเตะวัย 22 ปีรายนี้ออกมา

 

ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม ถึงแม้ว่าพาลเมอร์จะยังติดนิสัยชอบขยับมารอรับบอลทางฝั่งขวา แต่ตามข้อมูลจาก Oracle Cloud ของพรีเมียร์ลีกบอกว่า ซ้ายฟ้าประทานคนนี้ขยับเข้าไปอยู่ในพื้นที่ตรงกลางสนามเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

และถึงจำนวนการสัมผัสบอลเฉลี่ย (Average Touches) จะลดลงจาก 60.5 ครั้งในฤดูกาลที่เหลือ 48.4 ครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ค่าเฉลี่ยอย่างอื่นในการสร้างสรรค์เกมกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

  • การผ่านบอลขึ้นหน้า (Progressive Passes) ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (นับจนถึงปัจจุบัน) ของพาลเมอร์อยู่ที่ 28 ครั้ง มีนักเตะแค่ 8 คนที่ทำได้มากกว่า
  • ในบรรดานักเตะกองหน้าหรือกองกลางที่ผ่านบอลเกิน 100 ครั้ง พาลเมอร์ทำระยะเฉลี่ยการผ่านบอลที่ 18.9 เมตร มีแค่ ดไวท์ แม็คนีล จากเอฟเวอร์ตัน คนเดียวที่มีค่าเฉลี่ยมากกว่า (19.2 เมตร) – ซึ่งหมายถึงเป็นนักบอลที่จะผ่านบอลขึ้นหน้ามากกว่าจะผ่านบอลกลับหลังหรือออกข้าง
  • พาลเมอร์พาบอลขึ้นหน้าด้วยตัวเอง (Carry) เฉลี่ยเกมละ 12 เมตรในฤดูกาลนี้ จากจำนวนโอกาส 84 ครั้ง (หรือพูดง่ายๆ คือเลื้อยบอลเฉลี่ยเกมละ 14 ครั้ง)
  • การพาบอลขึ้นหน้าของพาลเมอร์จบด้วยการได้แอสซิสต์ถึง 3 ครั้งด้วยกัน
  • พาลเมอร์เป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยการทำแอสซิสต์ (xG Assisted) สูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก ที่ 3.18 เหนือกว่า บูกาโย ซากา (2.43) และแม็คนีล (2.34)

 

 

แต่สถิติทั้งหมดเหล่านี้ ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ประเมินได้จริง ยังไม่สามารถบ่งบอกสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตัวของพาลเมอร์ได้

 

เพราะสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตัวของเขาคือ ‘สมอง’ (Football Brain)

 

ในฤดูกาลนี้ พาลเมอร์พัฒนาการเล่นของตัวเองขึ้นไปอีกระดับ (2 ระดับเป็นอย่างน้อย) โดยจะสังเกตได้ว่าการตัดสินใจในการเล่นของเขา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่จะเลี้ยงบอลเอง การผ่านบอลให้เพื่อน ทุกอย่างจะเป็น ‘ตัวเลือก’ ที่ดีที่สุดเกือบทุกครั้ง

 

เลี้ยงกินตัวอย่างไรให้ทีมได้เปรียบ ขยับไปรอพื้นที่ตรงไหนให้ได้เปรียบ หรือผ่านบอลแบบไหนแล้วเพื่อนจะเล่นต่อได้เลยแบบได้เปรียบ

 

สิ่งเหล่านี้วัดเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่วัดด้วยความรู้สึกได้

 

เหนืออื่นใดคือทุกการตัดสินใจของเขา จะมาพร้อมกับการเล่นที่เนี้ยบเสมอ การผ่านบอลด้วยน้ำหนักและทิศทางที่พอเหมาะพอเจาะที่สุด เหมือนตักด้วยช้อนแล้วป้อนใส่ปากให้เพื่อน หรือการตัดสินใจยิงก็จะยิงด้วยการวางเท้าที่ถูกต้องที่สุด

 

มันเป็นเรื่องของพรสวรรค์ในการเล่นส่วนหนึ่ง

 

แต่อีกส่วนก็มาจากความมานะพยายามของเจ้าตัวที่หัดเล่นฟุตบอลกับพ่อ ซึ่งเป็นนักเตะสมัครเล่นมาตั้งแต่เด็ก

 

เห็นสีหน้าเรียบนิ่งแบบนี้ พาลเมอร์เป็นเด็กที่พยายามไม่น้อยไปกว่าใคร และที่สำคัญมีความกล้าหาญที่จะเดินออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง ด้วยการตัดสินใจไปจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะเชื่อว่าเขาจะมีโอกาสและเวทีได้ปลดปล่อยตัวเองออกมาในทีมเชลซี มากกว่าจะรอคอยโอกาสบนม้านั่งสำรองในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ยังไม่มั่นใจในตัวเขามากพอ

 

คำถามว่าพาลเมอร์เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้หรือไม่นั้น คำตอบแล้วแต่เหตุผลและมุมมองของแต่ละคน

 

แต่ถ้าถามว่านี่คือนักเตะที่น่าจับตาและน่าติดตามดู (อย่างน้อยก็ไฮไลต์แหละ) ที่สุดของพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ไหม? นี่คือนักบอลที่ควรค่าจะจ่ายเงินเพื่อซื้อตั๋วเข้าไปดูในสนามหรือกดสมัครแพ็กเกจดูบอลแสนแพงหรือไม่

 

ไม่

 

ไม่ต้องคิด ใช่อยู่แล้ว!

 

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising