ปกติแล้วเมื่อเอ่ยถึง Coca-Cola แบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของโลก เราก็มักจะนึกถึง Coke, Sprite และ Fanta แต่จริงๆ แล้วภายใต้พอร์ตของ Coca-Cola มีเครื่องดื่มกว่า 500 แบรนด์ที่กระจายตัววางขายอยู่ทั่วโลก แต่ข่าวล่าสุดอาจทำให้ลูกค้าต้องรีบตุนเครื่องดื่มที่ชื่นชอบไว้เสียแล้ว เพราะ Coca-Cola มีแผนที่จะยกเลิกแบรนด์กว่า 200 แบรนด์ หรือเกือบ 50% ของพอร์ต
การลดพอร์ตจะช่วยให้ Coca-Cola สามารถมุ่งเป้าไปที่เครื่องดื่มที่ทำกำไรสูงสุด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้รวมถึงผลิตภัณฑ์หลัก เช่น Coke รวมถึงแบรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์เช่น Topo Chico Hard Seltzer และ AHA
หากเทียบให้เห็นภาพจะพบว่า แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จของ Coca-Cola และแบรนด์ที่กำลังดิ้นรนมีผลงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เครื่องดื่มที่มีประสิทธิภาพต่ำมียอดขายเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ที่สำคัญยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% ของรายได้ทั้งหมด
การปรับพอร์ตเป็นหนึ่งในหลายกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ในช่วงฤดูร้อนนี้เพื่อช่วยให้เติบโต ซึ่งการปรับลดแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ จะช่วยเพิ่มทรัพยากรการลงทุนในเครื่องดื่มที่มีการเติบโตสูงขึ้น
โดยการระบาดของโรคโควิด-19 ได้กระทบกับยอดขายของ Coca-Cola เป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้ร้านอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางจำหน่ายหลักต้องปิดตัวชั่วคราว จุดนี้ทำให้ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา รายได้สุทธิลดลง 9% เป็น 8.7 พันล้านดอลลาร์ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าจะมีแบรนด์ใดบ้างที่ต้องปิดฉากลง แต่มีคำใบ้จาก เจมส์ ควินซีย์ ซึ่งเป็นแม่ทัพของ Coca-Cola กล่าวว่า กลุ่มเครื่องดื่มในหมวด Hydration g=jo Dasani, Powerade, Vitamin Water, Zico และยี่ห้ออื่นๆ มีแนวโน้มที่จะลดลง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: