ฤดูหนาวกำลังมาเยือน! ราคาถ่านหินโลกทุบสถิติใหม่อีกครั้ง

ราคาถ่านหิน โลกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ระดับ 457 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ราคาอยู่เพียง 163 ดอลลาร์ต่อตัน

ราคาถ่านหินที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ช่วยหนุนให้บรรดาหุ้นถ่านหินในไทยปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า โดย บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) เพิ่มขึ้น 5% บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) เพิ่มขึ้น 3% บมจ.บ้านปู (BANPU) เพิ่มขึ้น 1.4% บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น (TCC) เพิ่มขึ้น 0.9%

สำหรับปัจจัยหลักที่หนุนให้ราคาถ่านหินพุ่งขึ้นมาทำสถิติใหม่อีกครั้ง จักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย มองว่า เกิดจากทั้งปัจจัยในด้านอุปสงค์และอุปทาน ในส่วนของอุปสงค์ได้แรงหนุนจากปัญหาขาดแคลนพลังงานทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปที่ประสบปัญหาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงถ่านหินจากรัสเซีย ขณะที่ฝั่งของอุปทานจะเห็นว่าการผลิตถ่านหินใหม่ไม่ได้มีเข้ามาเท่าใดนัก ซึ่งเป็นเพราะเรื่องของการเปลี่ยนผ่านของการใช้พลังงานโลกไปสู่พลังงานสะอาด ขณะที่ผู้ผลิตถ่านหินที่มีอยู่ในปัจจุบันก็พยายามเดินเครื่องกำลังการผลิตให้เต็มประสิทธิภาพ

ปัญหาในยุโรปส่งผลให้ท่อส่งก๊าซต้องหยุดไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ยุโรปต้องหันไปซื้อถ่านหินจาก 2 แหล่งสำคัญ คือ ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย จนผลักให้ราคาถ่านหินพุ่งขึ้นมา ขณะที่ลำดับการใช้พลังงานในยุโรปโดยปกติจะเลือกใช้พลังงานทดแทนเป็นลำดับแรก ถัดมาคือก๊าซธรรมชาติ ก่อนจะเป็นถ่านหิน แต่ปัจจุบันยุโรปต้องหันมาใช้ถ่านหินก่อนก๊าซธรรมชาติ

ในช่วงสั้นคิดว่าราคาถ่านหินจะวิ่งขึ้นไปจนถึงเดือนมกราคมซึ่งใกล้จะจบฤดูหนาว ส่วนราคาถ่านหินจะลดลงในระยะกลางถึงยาวหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาพลังงานในยุโรป ตอนนี้จะเห็นว่าการคว่ำบาตรรัสเซียทำให้ยุโรปเจ็บตัวหนักสุด ขณะที่รัสเซียแม้จะขายได้น้อยลงแต่ราคาเพิ่มขึ้น ส่วนสหรัฐฯ ได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะส่งออกทั้งน้ำมันและถ่านหินมาให้ยุโรป

“โดยปกติหุ้นถ่านหินมักจะวิ่งตามราคาอยู่แล้ว แต่การวิ่งขึ้นครั้งนี้อาจจะไม่ได้เป็นเส้นเดียวกัน โดยราคาหุ้นอาจจะ Underperform เพราะทุกคนรู้ว่าราคาที่ปรับขึ้นเป็นเพราะอะไร และยิ่งเข้าใกล้เดือนธันวาคมหรือมกราคม การเก็งกำไรในหุ้นถ่านหินน่าจะเริ่มลดลง”

ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มถ่านหิน อย่าง BANPU, LANNA และ AGE จากการที่ราคาถ่านหินนิวคาสเซิลทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากที่ก่อนหน้าเคยทำจุดสูงสุดเดิมที่ 445.50 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565

ขณะที่ราคาถ่านหินของอินโดนีเซีย (ICI) ปรับตัวขึ้นมา 19% จาก 74.80 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อปลายเดือนก่อน มาเป็น 88.75 ดอลลาร์ต่อตัน เป็นผลมาจากวิกฤตพลังงานในยุโรป ทำให้มีการเร่งซื้อถ่านหินทดแทนก๊าซ หลังจากรัสเซียยุติการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1 ไปยังยุโรป

นอกจากนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีรายงานจาก Bloomberg ออกมาว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินในเยอรมนีอาจประสบปัญหาขาดแคลนสต๊อก หลังจากที่ระดับน้ำของแม่น้ำไรน์ลดต่ำลงจนทำให้การขนส่งถ่านหินล่าช้า

บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอย่าง EnBW AG และ Trianel GmBH เปิดเผยออกมาว่า พวกเขากำลังประสบปัญหาด้านอุปทาน ทำให้โรงไฟฟ้าจำเป็นจะต้องลดการผลิตลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตัวแทนของ Trianel กล่าวว่า ด้วยระดับน้ำที่ต่ำลง ทำให้ต้องจำกัดปริมาณการขนส่งถ่านหินต่อรอบ และสถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นได้เมื่อฝนกลับมาตกอีกครั้ง ทั้งนี้ ราคาถ่านหินล่วงหน้าในยุโรปสำหรับปีหน้าเพิ่มขึ้น 2.2% เป็นกว่า 320 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากช่วงเริ่มต้นของปีนี้

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH