Central Marketing Group หรือ CMG ธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารแบรนด์แฟชั่นในเครือเซ็นทรัล รีเทล เตรียมอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1,300 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างรายได้เกิน 1 หมื่นล้านบาทสำหรับหมวดแฟชั่น ภายในสิ้นปี 2566
“ธุรกิจแฟชั่นเป็นส่วนสำคัญของ CMG ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด” เอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด กล่าวพร้อมย้ำว่า รูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ประกอบกับพฤติกรรมที่กำหนดเทรนด์ของผู้บริโภคชาวไทย ได้เสริมสร้างการเติบโตของแบรนด์ในหมวดพรีเมียมและสตรีทแฟชั่น
“คนไทยเป็นหนึ่งในผู้บริโภคที่นำแฟชั่นมากที่สุดในเอเชีย” แม่ทัพ CMG กล่าวพร้อมเสริมว่า พฤติกรรมนี้ประกอบกับกระแสการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลงใหลในแฟชั่นที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางแฟชั่นแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
CMG มีสินค้ามากกว่า 20 แบรนด์ ครอบคลุมตั้งแต่ Luxury, Premium และ Mainstream Segment มีจุดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นของแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 1,900 จุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ CMG ทำนิวไฮเติบโตมากกว่า 16% ด้วยยอดขายตลอดช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 (ก่อนโควิด) และเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับปี 2565 และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้
โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงสุดคือ แบรนด์ในกลุ่มสินค้าพรีเมียม ที่เติบโตพุ่งทะยานมากถึง 131% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 (ก่อนโควิด) และเติบโตขึ้น 49% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 เซ็นทรัล รีเทลสามารถกวาดรายได้ถึง 123,208 ล้านบาท (+9%YoY) และกำไรสุทธิ 4,002 ล้านบาท (+37%YoY) พร้อมทั้งปิดไตรมาส 2 ด้วยรายได้รวม 60,002 ล้านบาท (+6%YoY) และกำไรสุทธิ 1,690 ล้านบาท (+5%YoY)
เฉพาะไตรมาส 2 กลุ่มแฟชั่นเติบโตขึ้นกว่า 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ในปี 2565 เนื่องจากมีการอัปเกรดและนำเข้าสินค้าใหม่ๆ ในทุกหมวดหมู่ รวมถึงขยายร้านค้าให้เพิ่มขึ้นด้วย