กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund: CMDF) ร่วมกับ McKinsey & Company (Thailand) Co. Ltd. บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการระดับโลก จัดทำรายงานสมุดปกขาว Improving Thailand’s Capital Market Competitiveness and Efficiency ศึกษาถึงโอกาสและข้อจำกัดของโครงสร้างตลาดทุนไทยด้านความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
จากการศึกษาพบว่าตลาดทุนไทยยังเป็นกลไกหลักที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน และโดยภาพรวมตลาดทุนไทยมีศักยภาพในการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน อีกทั้งเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาวที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและนวัตกรรม และเป็นแหล่งความรู้ด้านการออมการลงทุน โดยตลาดทุนไทยสร้างประโยชน์แก่ประเทศในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ประชาชนที่จะเข้าสังคมผู้สูงอายุมีการออมสำหรับวัยเกษียณ จนถึงการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อัปเดต 7 หุ้น พอร์ต เซียนฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ มูลค่า 6.14 พันล้านบาท
- สำรวจ 8 หุ้นใหญ่ พอร์ต 6.68 หมื่นล้าน นิติ โอสถานุเคราะห์ บอสใหญ่โอสถสภา
- แกะพอร์ต 10 หุ้น ในมือ สุระ คณิตทวีกุล เจ้าของ COM7 มหาเศรษฐีไทย อันดับที่ 49
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการทำธุรกิจในตลาดทุนบางประเภท เช่น ต้นทุนการซื้อขายหุ้นในตลาดรอง (ที่มีต้นทุนปัจจุบันสูงเป็นอันดับสองในอาเซียน คำนวณโดยไม่ได้รวมภาษีขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax ที่อาจนำมาใช้) หรือกองทุนรวม ยังมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียน ทำให้ตลาดทุนไทยต้องปรับตัวเพื่อให้แข่งขันได้ด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังจัดทำ 10 ข้อเสนอเชิงนโยบายเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ยั่งยืนในอนาคต ดังนี้
- ส่งเสริมการจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อช่วยให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emissions): โดยการผลักดันนวัตกรรมการเงินสีเขียว (Green Finance) ในตลาดทุนไทย
- พัฒนากองทุนบำเหน็จบำนาญเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ: โดยการสนับสนุนการพัฒนาของกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ
- ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs / Start-up): ผ่านการสนับสนุนด้านเงินทุน การให้คำปรึกษา การสร้างแพลตฟอร์ม และการทำข้อตกลงในการระดมทุน
- ขยายสินทรัพย์ดิจิทัล: ควรสำรวจการใช้งานที่หลากหลาย และสร้างความมั่นใจในการบริหารความเสี่ยง
- ปรับปรุงความรู้ทางการเงิน: ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โครงการลงทุนรูปแบบใหม่ และการส่งเสริมการรับรู้เรื่องการลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย
- ส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อย: ลดความซับซ้อนของการเข้าสู่การลงทุน นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนรายย่อยในตลาดทุนไทย
- ดึงดูดเงินลงทุนระยะยาวจากผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ: สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างมากขึ้นให้ทัดเทียมกับประเทศผู้นำระดับภูมิภาค และมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับภาคเศรษฐกิจใหม่
- พัฒนาผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ: สร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ลงทุนสถาบันในประเทศโดยการกระจายการลงทุนไปสู่ทรัพย์สินที่มีความหลากหลายมากขึ้น
- ปลดล็อกการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics): โดยการลงทุนในการสร้างมาตรฐานข้อมูลและการรวบรวมแหล่งข้อมูลเพื่อการลงทุน
- ดึงดูดและบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถ (Talent): โดยการดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะตามความต้องการเข้าสู่ตลาดทุนไทย และการยกระดับบุคลากรในตลาดทุนไทยปัจจุบันให้มีทักษะตามที่คาดหวัง
การพัฒนาตลาดทุนไทยตามแนวทางดังกล่าวพร้อมกับการรักษาระดับความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน นับเป็นข้อเสนอแนะจากการศึกษา เพื่อให้ตลาดทุนไทยสามารถต่อยอดจากความสำเร็จในอดีต และสร้างตลาดทุนไทยที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการที่จะทำให้เกิดตลาดทุนแห่งอนาคตของประเทศไทยได้จริง จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง