เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะกรมประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ เผยถึงความคืบหน้าการประชุมที่ปรึกษาอุทยานทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีมติว่า กรมอุทยานฯ จะปิดอ่าวมาหยาไปอีก 2 ปี เพื่อรอให้สภาพระบบนิเวศฟื้นฟู ปรับระบบจัดการดูแลท่องเที่ยวและมาตรการลดผลกระทบ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวบนฝั่ง และไม่ให้เรือเข้าไปในอ่าวมาหยาเหมือนสมัยก่อน
ซึ่งการฟื้นฟูอ่าวมาหยาเป็นส่วนหนึ่งของพีพีโมเดล ภายใต้กำหนดเวลา 2 ปี โดยเน้นข้อมูลประกอบเป็นสำคัญ ดังนี้
1. การศึกษาความสามารถในการรองรับเสร็จแล้ว มีตัวเลขพร้อม แต่ตัวเลขดังกล่าวคำนึงถึงการดูแลรักษาธรรมชาติเต็มระบบ
2. กรมอุทยานฯ กำลังจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบป้องกันผลกระทบ เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ท่าเรือ บ้านพักเจ้าหน้าที่ เป็นต้น ซึ่งการจัดทำทั้งหมดจะเสร็จภายใน 1 ปีเศษ
3. ในขณะเดียวกัน กรมอุทยานฯ กำลังจัดทำระบบ e-Ticket และระบบติดตามเรือ ซึ่งถ้าสมบูรณ์ จะมีประโยชน์อย่างย่ิงต่อการดูแลจัดการท่องเที่ยว
4. เมื่อระบบพร้อมอาจเปิดให้มีการทดลอง ในขณะเดียวกัน จะมีการประเมินสภาพระบบนิเวศที่เกิดขึ้นจากการฟื้นฟู ทั้งแนวปะการัง ป่าชายหาด ฯลฯ
5. เมื่อการประเมินเสร็จ และผลเป็นตามคาดหวังจะมีการตัดสินใจอีกครั้งในการเปิดให้ท่องเที่ยว
6. การเปิดให้ท่องเที่ยวต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเคร่งครัด ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว/รอบ จำนวนเรือ ฯลฯ
7. อีกข้อที่สำคัญคือ การไม่เปิดให้เรือเข้าทางหน้าอ่าวอีกแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการังที่กำลังฟื้นฟู/ฝูงฉลามหูดำ เป็นต้น
8. ต้องมีการติดตามระบบนิเวศ รวมถึงผลกระทบอื่นๆ เช่น ปะการังฟอกขาวที่อาจเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้กล่าวเสริมว่า การปิดอ่าวเป็นเวลา 2 ปี จะขึ้นเพื่อให้ธรรมชาติได้พักผ่อนและฟื้นฟูระบบนิเวศ พร้อมเงื่อนไขที่ว่า ก่อนจะเปิด คณะกรรมการฯ จะเข้าไปตรวจสอบครั้งสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง ถึงความพร้อมของระบบนิเวศที่จะให้บริการกับนักท่องเที่ยว และจะต้องไม่เกิดความเสียหายอีก
“ภายหลังการเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว จะต้องมีการติดตามตรวจสอบสถานภาพของทรัพยากรทุกๆ 3 เดือน เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมในแต่ละวันหรือในแต่ละรอบของการเข้าชม เพื่อรักษาทรัพยากรที่มีให้คงอยู่” ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวเสริม
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: