ดูกัน ‘ยันหว่าง‘ ชนิดสว่างคาตากันไปเลย สำหรับซีรีส์ 8 ตอนจบ Clickbait คลิกล่อตาย ทาง Netflix ด้วยเรื่องราวพลิกไปพลิกมาหักมุมแบบที่จ้างให้ก็ไม่มีใครเดาถูกว่าใครคือเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด จนมีบางกระแสบอกว่า บทหักมุมชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินแบบนี้ใครๆ ก็เขียนได้ แต่ในความคิดเห็นของผู้เขียนเชื่อว่า ผู้สร้างต้องการย่ำประเด็นการอยากมีตัวตนของคนเหงาๆ ในสังคม โดยใช้โลกออนไลน์สร้างตัวตนสมมติ จนเลยเถิดกลายเป็นเรื่องราวในซีรีส์
***บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเรื่อง
Clickbait คลิกล่อตาย ว่าด้วยเรื่องราวของ นิค บริวเวอร์ คุณพ่อลูกสองที่ดูเป็นแฟมิลีแมนสุดๆ แต่แล้วเช้าวันหนึ่งเขาก็หายตัวไป แล้วปรากฏตัวในคลิปที่มีภาพตัวเขาถูกซ้อมและชูป้ายที่มีข้อความว่า เขาเคยทำร้ายและฆ่าผู้หญิง ซึ่งหากยอดวิวคลิปไวรัลนี้ถึง 5 ล้านวิวเมื่อไร เขาจะถูกฆ่าตาย กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนสอบสวนที่ยิ่งสาวลึกลงไปก็ยิ่งสร้างความงุนงงสงสัยในตัวนิคว่าเขาเป็นคนดีจริงอย่างที่คนรอบข้างคิดหรือเปล่า และคนรอบๆ ตัวเขามีความลับอะไรซ่อนอยู่
เรื่องราวทั้ง 8 ตอน มีชื่อสั้นๆ บรรยายถึงความสัมพันธ์ของตัวละครเด่นในแต่ละตอนกับตัวนิค ซึ่งจะผลักดันให้เนื้อเรื่องดำเนินไปข้างหน้า เริ่มจากเพีย น้องสาวของนิค ที่ดูภายนอกเป็นผู้หญิงร้ายๆ คอยสร้างเรื่องน่าปวดหัวให้คนในครอบครัว ยิ่งฉากเปิดเรื่องเธอทะเลาะกับนิคกลางโต๊ะอาหาร ยิ่งทำให้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปโดยปริยาย แต่กลับกลายเป็นว่าเพียเป็นเพียงคนเดียวที่มั่นใจในตัวนิค แม้จะมีหลักฐานว่าพี่ชายใช้แอปพลิเคชันหาคู่สร้างสัมพันธ์กับหญิงอื่นถึง 3 คน ทำให้เพียเป็นเหมือนตัวแทนคนดูในการค้นหาความจริงของเรื่องนี้
ด้วยความเป็นผู้หญิงเฟียสๆ เพียเองก็ใช้แอปฯ หาคู่เพื่อแก้เหงา จนปัดขวาไปเจอกับโรชาน ซึ่งกลายมาเป็นนักสืบในคดีของนิคโดยบังเอิญ เขาเป็นนายตำรวจที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตรัก และอยากเป็นที่ยอมรับของหน่วยสืบสวนอาชญากรรม จึงทุ่มเทอย่างหนักในคดีของนิค จนพบเบาะแสที่อาจเชื่อมโยงไปถึงโซฟี ภรรยาของนิค แม้ดูภายนอกโซฟีจะเป็นครูสาวใจดี แต่ภายในยังคงโหยหาความสนุกตื่นเต้นจนเลยเถิดไปเล่นชู้กับเพื่อนร่วมงาน การที่ได้รู้ว่าสามีก็แอบนอกใจ ทำให้เธอใจสลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดละความผิดบาปในใจ จนแอบลำเอียงคิดว่านิคก็ไม่ซื่อสัตย์ไม่ต่างจากเธอ
การปรากฏตัวของเอ็มมา หญิงสาวที่อ้างว่าเป็นคู่รักของนิค ทำให้เรื่องราวพลิกไปอีกครั้ง ภายนอกเอ็มมาดูเป็นสาวแสนดี แต่ในใจก็ดูไม่ปกติ โดยเฉพาะฉากที่เธอพร่ำพูดหน้ากระจกว่า “ฉันดีพอที่จะเป็นที่รัก” แสดงถึงความไม่มั่นใจในตัวเองจนต้องใช้แอปฯ หาคู่คลายเหงา การได้เจอผู้ชายที่ (คิด) ว่ารักเธอ ยิ่งสานต่อจินตนาการความรักสมบูรณ์แบบ จนน่าสงสัยว่ามันคือเรื่องจริงหรือเป็นเพียงการมโนไปเอง
นอกจากเรื่องราวจะดำเนินไปกับตัวละครหลักๆ แต่เส้นเรื่องก็ยังแวะให้คนดูไปสำรวจชีวิตผู้สื่อข่าว เบน พาร์ก ที่มาทำข่าวคดีนี้ เขาเป็นนักข่าวเกย์เอเชียนผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างตัวตนในสำนักข่าว และลบภาพเด็กฝึกงานที่เคยเป็นในองค์กร แม้วิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลจะไม่ถูกต้องตามหลักจรรยาบรรณก็ตาม แต่ก็ทำให้พบเบาะแสของอีกหนึ่งตัวละครลับนั่นก็คือซาราห์ หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และใช้แอปฯ หาคู่เพื่อบรรเทาความหม่นหมองในใจตัวเอง เป็นที่มาของชนวนที่ทำให้นิคถูกลักพาตัวไป จากนั้นเรื่องราวก็วนกลับมาที่ครอบครัวนิคอีกครั้ง โดยโฟกัสไปที่อีธาน ลูกชายคนโตผู้ใช้ชีวิตอยู่ในเกมและสานสัมพันธ์แบบออนไลน์กับคนที่ไม่เคยเจอกัน นั่นกลายเป็นเบาะแสสำคัญให้เรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายออกมา
สังเกตว่าตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องนี้มีบางอย่างที่คล้ายกันคือเป็นคนเหงาๆ ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่น่าเบื่อ คนรอบตัวที่คิดว่ารู้จักก็อาจไม่ได้รู้จักตัวตนทั้งหมดของพวกเขา และบางคนก็อยากสร้างตัวตนให้เป็นที่ยอมรับของใครสักคน โดยอาศัยโลกออนไลน์เพื่อหลีกหนีจากชีวิตจริง โดยเฉพาะผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดที่ถูกมองข้ามแม้ในสายตาคนที่รัก (รวมทั้งคนดูเองก็แทบจะไม่เหลียวแล) แต่เพราะเลือกใช้วิธีการที่ผิด ทำให้เรื่องเล่นๆ จากจุดเล็กๆ กลับไปทำลายชีวิตคนอื่นจนยากเกินควบคุม
นอกจากความตื่นเต้นที่ได้ค้นหาว่าใครคือคนร้ายตัวจริง ผู้เขียนชอบการเข้าไปสำรวจชีวิตอีกด้านของตัวละคร จนย้อนมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า คนที่คิดว่าสนิท เรารู้จักเขาดีแค่ไหน ทั้งในโลกออนไลน์และชีวิตจริง เราพร้อมที่จะตัดสินคนอื่นด้วยความจริงเพียงด้านเดียว อย่างนิคก็กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาคนติดตามข่าวในเรื่อง หรือเอ็มมาที่มองว่านิคเป็นคนดีอย่างน่าเหลือเชื่อ และอีกประเด็นที่น่าขนลุกก็คือ ทุกวันนี้เราแชร์ข้อมูลส่วนตัวในโลกออนไลน์มากไปหรือเปล่า ซึ่งสักวันหนึ่งมันอาจจะย้อนกลับมาทำลายชีวิตเราเองเหมือนในซีรีส์ก็เป็นได้