ยุคที่ Self-Investment ไม่ใช่แค่เทรนด์แต่เป็นความจำเป็น การพัฒนาตัวเองในทุกมิติกลายเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ การดูแลสุขภาพกายใจ หรือการลงทุนกับภาพลักษณ์ เพราะความสำเร็จที่ยั่งยืนเริ่มต้นจากการเห็นคุณค่าและใส่ใจตัวเองอย่างรอบด้าน
Skincare is Self-Investment
‘Skincare is Self-Investment’ ไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อความงาม แต่คือปรัชญาการดูแลตัวเองแบบองค์รวมที่กำลังเปลี่ยนโฉมไลฟ์สไตล์ของสาวยุคใหม่ เมื่อความสำเร็จไม่ได้วัดกันแค่ผลงาน แต่ยังรวมถึง Well-being ในทุกมิติ ทั้งสุขภาพกาย ใจ และภาพลักษณ์ที่สะท้อนถึงการใส่ใจดูแลตัวเอง การลงทุนกับสกินแคร์จึงกลายเป็น ROI (Return on Investment: ผลกำไรสุทธิ) ที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะได้ผิวสวยสุขภาพดีแล้ว ยังเป็นการเติมเต็มความมั่นใจจากภายในสู่ภายนอก สำหรับสาวยุคใหม่ การทุ่มงบหลักหมื่นให้กับสกินแคร์คุณภาพดีจึงไม่ใช่การฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุนที่คุ้มค่า เสมือนการบอกรักตัวเองทุกวัน และสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงที่ใส่ใจการดูแลตัวเองอย่างมีระดับ จนกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่โดดเด่นและน่าดึงดูด
Clé de Peau Beauté การลงทุนเพื่อความงามระดับไฮเอนด์
Clé de Peau Beauté แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามระดับลักชัวรีที่ครองใจสายสกินแคร์ระดับไฮเอนด์มาตลอดกว่า 40 ปี หนึ่งในแบรนด์ที่สาวยุคใหม่ยอมทุ่มหลักหมื่นโดยไม่ลังเล ด้วยคุณภาพที่พิสูจน์แล้วว่าคู่ควรกับการเป็น Must-Have Item อย่างแท้จริง และต่อไปนี้คือเหตุผลที่หลายๆ คนให้ความไว้วางใจกับแบรนด์นี้
Clé de Peau Beauté ก่อตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1982 กว่า 4 ทศวรรษแห่งการวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ Clé de Peau Beauté คือการเดินทางสู่การค้นพบความลับแห่งผิวสวยเหนือระดับ ด้วยการผสานสุดยอดนวัตกรรมความงามของญี่ปุ่นเข้ากับส่วนผสมล้ำค่า ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันราวกับงานศิลปะ
จากการค้นคว้าอย่างลึกซึ้งในศูนย์วิจัยของแบรนด์ นำไปสู่การค้นพบ ‘Skin Intelligence’ ความสามารถอันชาญฉลาดของผิวที่สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ผิวแลดูเปล่งประกายมีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยล่าสุดในปี 2023 กับการค้นพบ Sensor Proteins โปรตีนจับสัญญาณที่ทำหน้าที่เสมือนการ์ดผู้พิทักษ์ผิว คอยสแกนและปกป้องผิวจากสิ่งรบกวนรอบด้าน ที่ได้นำมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Le Sérum สูตรใหม่ล่าสุด เพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นบำรุง Skin Intelligence ของผิวได้รวดเร็วและเหนือกว่าทุกสูตรที่ผ่านๆ มา
ความพิถีพิถันไม่ได้หยุดแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ลดการใช้พลาสติก เลือกใช้วัสดุรีไซเคิล และคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืน พร้อมปรับกระบวนการผลิตเพื่อลดคาร์บอนฟุตพรินต์อีกด้วย
และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ไอคอนิกอย่าง La Crème มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเข้มข้นยามค่ำคืนเพื่อผิวอ่อนเยาว์ และ Le Sérum เซรั่มบำรุงผิวขั้นแรกที่ช่วยฟื้นฟูศักยภาพผิวตามธรรมชาติให้ผิวแลดูเปล่งประกายความเรเดียนส์ กลายเป็น Must-Have Item ที่สาวยุคใหม่พร้อมลงทุนด้วยความเชื่อมั่น เพราะนี่ไม่ใช่แค่สกินแคร์ แต่คือการลงทุนกับผิวสวยที่คู่ควรกับความสำเร็จของพวกเธอ
พันธกิจเพื่อสังคมภายใต้ความร่วมมือกับ UNICEF เพื่อเด็กผู้หญิงทั่วโลก
เพราะความงามที่แท้จริงคือพลังในการเปลี่ยนแปลงโลก สำหรับผู้หญิงที่มีวิสัยทัศน์และมายด์เซ็ตที่เปิดกว้าง ความงามไม่ใช่แค่เรื่องของตนเอง แต่คือการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดทั้งเพื่อตัวเองและสังคม Clé de Peau Beauté ในฐานะผู้นำวิทยาการความงาม จึงให้ความสำคัญกับพันธกิจเพื่อสังคม (Social Impact) อย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ปี 2019 แบรนด์คือพันธมิตรรายเดียวของ UNICEF ในโครงการเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ มุ่งมั่นช่วยเหลือเด็กผู้หญิงหลายล้านชีวิตทั่วโลก โดยสนับสนุนด้านการศึกษา โอกาสในการทำงาน และการพัฒนาศักยภาพ โดยเฉพาะในสาขา STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) เพื่อให้พวกเธอสามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้
ทุกการจำหน่าย Le Sérum 1 ขวดทั่วโลก Clé de Peau Beauté จะมอบเงิน 3 ดอลลาร์สหรัฐให้กับ UNICEF เพื่อใช้ในการสนับสนุนการศึกษาและเสริมสร้างศักยภาพให้กับเด็กผู้หญิงที่ด้อยโอกาส เปิดทางสู่อนาคตที่ดีกว่า
นี่ไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อความงาม แต่คือการสร้างผลลัพธ์ที่ล้ำค่ากว่า เป็นความงามที่สะท้อนถึงพลังของผู้หญิงที่ไม่เพียงดูดี ฉลาด และมีวิสัยทัศน์เท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก ส่งต่อโอกาสให้เด็กผู้หญิงทั่วโลกได้มีอนาคตที่สดใสไปพร้อมกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม www.cledepeau-beaute.co.th
ภาพ: Clé de Peau Beauté