ราชบัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน (Royal Swedish Academy of Sciences) ประกาศผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ประจำปี 2023 ได้แก่ คลอเดีย โกลดิน นักประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์หญิงชาวอเมริกัน จากผลงานวิจัยเรื่องความเหลื่อมล้ำของค่าจ้างระหว่างชายและหญิง
“คลอเดีย โกลดิน ผู้ที่ได้รับรางวัลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปีนี้ ได้จัดทำรายงานที่ครอบคลุมเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับรายได้ของผู้หญิง และการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในตลาดแรงงานตลอดช่วงหลายศตวรรษ” ราชบัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดนระบุในแถลงการณ์
หนังสือของโกลดินในปี 1990 เรื่อง การทำความเข้าใจช่องว่างระหว่างเพศ: ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของสตรีอเมริกัน (Understanding the Gender Gap: An Economic History of American Women) เป็นผลงานที่มีอิทธิพลอย่างมากเกี่ยวกับการศึกษารากเหง้าความเหลื่อมล้ำของค่าจ้างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง โดยเธอได้ติดตามผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของยาคุมกำเนิดต่ออาชีพการงานและการตัดสินใจแต่งงานของผู้หญิง นามสกุลของผู้หญิงหลังแต่งงานในฐานะเครื่องบ่งชี้ทางสังคม และสาเหตุที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในปัจจุบันศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
โกลดิน ซึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งที่ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อปี 1990 นับเป็นผู้หญิงคนที่ 3 เท่านั้นที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์
รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมีมูลค่ารางวัล 11 ล้านโครนาสวีเดน หรือเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นรางวัลโนเบลสาขาสุดท้ายที่มีการประกาศในปีนี้ต่อจากสาขาการแพทย์ ฟิสิกส์ เคมี วรรณกรรม และสันติภาพ
ทั้งนี้ รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่ 1 ใน 5 รางวัลโนเบลสาขาดั้งเดิม ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี 1895 ตามความตั้งใจก่อนเสียชีวิตของ อัลเฟรด โนเบล ผู้ประดิษฐ์ระเบิดไดนาไมต์ แต่ก่อตั้งขึ้นโดยธนาคารกลางสวีเดนในปี 1968 และเริ่มประกาศรางวัลครั้งแรกในปี 1969 โดยมีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า ‘The Sveriges Riksbank Prize in Economic Sciences in Memory of Alfred Nobel’
สำหรับผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ 3 นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ คือ เบน เบอร์นันกี อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) พร้อมด้วย ดักลาส ไดมอนด์ และ ฟิลิป ดิบวิก นักเศรษฐศาสตร์อีก 2 คนจากงานวิจัยที่เกี่ยวกับธนาคารและวิกฤตทางการเงิน
ภาพ: The Nobel Prize
อ้างอิง: