มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย และบาดเจ็บอีก 183 ราย ในเหตุการณ์ปะทะกันทั่วประเทศซูดาน จากการเปิดเผยของคณะกรรมการการแพทย์กลางของซูดานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 เมษายน)
ขณะที่ โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล ผู้บัญชาการกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ของซูดาน อ้างว่า กองกำลังได้เข้ายึดสถานที่ราชการส่วนใหญ่ในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน หลังการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธของเขากับกองทัพของประเทศเมื่อวันเสาร์
“กองกำลัง RSF เข้าควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์มากกว่า 90% ในคาร์ทูม” ดากาโลกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Sky News Arabia
อย่างไรก็ตาม นายพล อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดาน โต้แย้งคำกล่าวอ้างของดากาโล และกล่าวว่า กองทัพยังคงควบคุมสถานที่ราชการเอาไว้ได้
ดากาโล หรือที่รู้จักในชื่อ เฮเมดติ กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Al Jazeera ว่า บูร์ฮานเป็น ‘อาชญากร’ โดยกล่าวหาว่าเขายุยงให้เกิดการต่อสู้เมื่อวันเสาร์
มีรายงานการปะทะกันด้วยอาวุธทั่วคาร์ทูม รวมถึงที่ทำเนียบประธานาธิบดีและกองบัญชาการกองทัพ แหล่งข่าวทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลใจกลางกรุงคาร์ทูมเผยกับ CNN เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ว่า โรงพยาบาลได้รับพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บหลายสิบรายในช่วงหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
กองทัพของซูดานกล่าวว่า กองกำลัง RSF ได้แทรกซึมสนามบินคาร์ทูมและเผาเครื่องบินพลเรือน
“เรียนประชาชนผู้มีเกียรติ กองกำลังกบฏยังคงดำเนินต่อไปด้วยวงจรของการวางแผนทรยศและการโจมตีประเทศของเราและอธิปไตยของชาติตั้งแต่เช้า บุตรแห่ง Armed Forces ของพวกท่านต่อสู้ด้วยชีวิต เพื่อศักดิ์และสิทธิ์แห่งประเทศของเรา” โฆษก Rapid Armed Forces กล่าวในแถลงการณ์
การขึ้นสู่อำนาจอย่างรวดเร็วของดากาโลเริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาเป็นผู้นำกองกำลัง Janjaweed ที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความขัดแย้งดาร์ฟูร์ช่วงต้นทศวรรษ 2000 กลุ่มติดอาวุธของเขายังสังหารผู้คนอย่างน้อย 118 รายในการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อเดือนมิถุนายน 2019 หลังทหารเปิดฉากยิงใส่ประชาชนที่ชุมนุมอย่างสันติ
กองทัพของซูดานกล่าวหากองกำลัง RSF ว่า ‘วางแผนทรยศต่อประเทศ’ และเรียกร้องให้สลายกองกำลัง โดยกองทัพซูดานระบุในแถลงการณ์ว่า “จะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งนั้น จนกว่าจะสลายกลุ่มติดอาวุธกบฏของเฮเมดตีได้” นอกจากนี้ยังออกโปสเตอร์ตามจับดากาโล โดยเรียกเขาว่า ‘อาชญากรที่หลบหนี’
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ผู้นำกองกำลัง RSF และกองทัพซูดาน ‘ยุติการสู้รบทันที’ ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกแถลงการณ์เน้นย้ำถึงความสำคัญในการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และความปลอดภัยของบุคลากรของสหประชาชาติ
ขณะที่สหภาพแอฟริกาออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยเรียกร้องให้พรรคการเมืองและฝ่ายทหารหาทางออกทางการเมืองที่ยุติธรรม
ด้านกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพซูดานออกแถลงการณ์ ขอให้พลเรือนอยู่แต่ภายในที่พักอาศัย เนื่องจากเครื่องบินรบจะกวาดล้างกองกำลัง RSF
“กองทัพอากาศซูดานจะดำเนินการกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธ Rapid Support ของฝ่ายกบฏให้สิ้น กองทัพอากาศขอให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้านและอย่าออกไปข้างนอก” แถลงการณ์ระบุ
ในขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สถานการณ์เปราะบางเกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านเพื่อฟื้นฟูการปกครองที่นำโดยพลเรือน โดยมีผู้ที่พยายามขัดขวางความก้าวหน้าในการเจรจาดังกล่าว
นอกจากนี้บลิงเคนยังได้หารือสถานการณ์ในซูดานร่วมกับเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน บิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย และ ชีค อับดุลลาห์ บิน ซาเอด อัล นาห์ยาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางโทรศัพท์ ตามรายงานของสำนักข่าว Saudi Press Agency ซึ่งการหารือเน้นย้ำถึงความสำคัญของการยุติการยกระดับความรุนแรงทางทหาร และกลับสู่กรอบข้อตกลงที่รับประกันความมั่นคงและเสถียรภาพของซูดาน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐของคาร์ทูมประกาศวันหยุดราชการในเมืองหลวง เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
สถานการณ์ตึงเครียดที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้เกิดจากความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับวิธีการรวมกองกำลัง RSF เข้ากับกองทัพ และหน่วยงานใดควรดูแลกระบวนการนี้ การควบรวมดังกล่าวเป็นเงื่อนไขสำคัญของข้อตกลงการเปลี่ยนผ่านที่ยังไม่มีการลงนามของซูดาน
ทั้งนี้ กองทัพเข้าปกครองซูดานตั้งแต่เกิดรัฐประหารในปี 2021 ซึ่งมีบูร์ฮานและดากาโลเป็นผู้นำ การทำรัฐประหารในปี 2021 นำมาซึ่งการยุติระบบแบ่งอำนาจ หลังจากประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ผู้นำเผด็จการที่ปกครองซูดานติดต่อกันนาน 3 ทศวรรษถูกโค่นอำนาจเมื่อปี 2019
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง: