วันที่ (23 สิงหาคม) ที่ห้องนนทบุรี 3 อาคาร 4 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการจัดกิจกรรมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ ผ่านระบบ Zoom โดยมี พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยกรรมการ ป.ป.ช. เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. และมีสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการเป็นผู้ร่วมกิจกรรมผ่านระบบ Zoom
กรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์แคมเปญ #พูดหยุดโกง ที่มีการใช้เงินจากกองทุน ป.ป.ช. กว่า 7 ล้านบาทนั้น พล.ต.อ. วัชรพลกล่าวว่า ที่มาที่ไปของการขอเงินกองทุน ป.ป.ช. ต้องผ่านหลายส่วน โดยเมื่อมีผู้เสนอโครงการมาต้องมีการวิเคราะห์นำส่งสำนักนโยบายและแผน และสำนักสื่อสารองค์กร การสร้างความรับรู้ให้แก่ประชาชนของสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อวิเคราะห์คำขอโครงการ งบประมาณที่จะใช้ มีตัวชี้วัดต้องดำเนินการอะไรบ้างต่างๆ เมื่อผ่านทั้งสองสำนักแล้วจะไปสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการ มีตัวแทนของกองทุน มีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาช่วยกันวิเคราะห์ว่า ภาคเอกชนใดๆ ขอมาในโครงการนี้ มีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร
พล.ต.อ. วัชรพลกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกองทุน มีตนเป็นประธาน และมีกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ได้รับมอบหมาย 1 รายเป็นกรรมการ นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากสำนักงบประมาณ ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการ เพื่อวิเคราะห์และพิจารณาตามที่คณะอนุกรรมการเสนอมา ในที่สุดเรื่องนี้มีการอนุมัติไป หลังจากนั้นต้องไปติดตาม ประเมินตามตัวชี้วัดว่าเป็นไปตามตัวชี้วัดหรือไม่
“วันนี้ต้องน้อมรับว่า เรื่องของข้อมูลข่าวสารในปัจจุบัน โซเชียลมีเดียมีอิทธิพล รวดเร็วมาก สิ่งที่คอมเมนต์มากรรมการ ป.ป.ช. แต่ละคนไม่ค่อยสบายใจ แต่น้อมรับทั้งหมด ต้องนำเรื่องนี้มาประกอบ และส่งมอบข้อมูลตรงนี้ไปให้กรรมการที่ประเมินตามตัวชี้วัด อาจมีการปรับปรุงแก้ไข ดำเนินการอย่างไร ทั้งหมดถือเป็นบทเรียนความผิดพลาด ข้อแนะนำต่าง ๆ ป.ป.ช. น้อมรับ และเป็นกระบวนการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมรณรงค์ในการหยุดโกง อาจมีอะไรผิดพลาดบ้างทางเราน้อมรับ ทุกอย่างตั้งใจให้คนรณรงค์มีส่วนร่วม อาจไม่ครบถ้วนไม่รอบคอบไปบ้าง คราวหน้าจะได้ไม่เกิดข้อบกพร่อง มีประสิทธิภาพมากขึ้น” พล.ต.อ. วัชรพลกล่าว