บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower ซึ่งทำธุรกิจในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ในภูมิภาค เผยผลประกอบการปี 2567 มีรายได้รวม 10,789 ล้านบาท และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 5,554 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อน
ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้จะเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะดอกเบี้ยผันผวน บริษัทยังคงรักษาความแข็งแกร่งของกระแสเงินสด โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 1,345 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีก่อน
เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ EBITDA เติบโตแข็งแกร่ง มาจากรายได้การขายไฟฟ้าของบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (NN2) ที่เพิ่มขึ้น 25.3% เทียบกับปีก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำช่วงต้นปี 2567 และปริมาณน้ำไหลเข้าระหว่างปีที่มากกว่าปีก่อนจากปรากฏการณ์ลานีญา ส่งผลให้ NN2 สามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้าได้มากขึ้น และทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์” ธนวัฒน์กล่าว
สำหรับแนวโน้มครึ่งปีแรกของปี 2568 คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีกว่าปี 2567 เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 สูงกว่าปีก่อน ทำให้สามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้าในเดือนมกราคมได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 5%
สอดคล้องกับทิศทางของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงกว่าปีก่อน ส่งผลให้ XPCL สามารถขายไฟฟ้าในเดือนมกราคมได้มากกว่าปีก่อนถึง 23%
นอกจากนี้ โครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์สำหรับ BEM ระยะแรก 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 7.0 MW มีความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ 65% โดยเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว 1 โครงการ และจะทยอยแล้วเสร็จครบทุกโครงการในไตรมาส 2 ปี 2568
ด้านฐานะการเงิน บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่อง 1.86 เท่า เพิ่มขึ้น 0.18 เท่าจากปีก่อน ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ในระดับต่ำที่ 0.52 เท่า
โดยคาดว่าแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และไทย รวมถึงการไถ่ถอนหุ้นกู้มูลค่า 1,400 ล้านบาทของ NN2 จะช่วยลดภาระทางการเงินของบริษัทได้อีกในระยะต่อไป