วันนี้ (24 มีนาคม) ภายในซอยเฉยพ่วง เขตจตุจักร ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงพื้นที่ขึ้นรถเครื่องขยายเสียงทำกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย และแจกเสื้อยืดให้กับประชาชน พร้อมชี้แจงกรณีที่โรงพยาบาลศิริราชเตรียมดำเนินการคืนเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทของเขาที่ได้บริจาคไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย
ชูวิทย์กล่าวว่า วานนี้ (23 มีนาคม) มีผู้ใหญ่ในแวดวงการการเมืองที่ตนเคารพบอกให้ยุติเรื่องต่างๆ ได้แล้ว แต่ตนยืนยันจะสู้ต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว เพราะยังมีอีก 2 เรื่องที่จะทำคือ
- การรณรงค์เรื่องต่อต้านกัญชาเสรี ซึ่งมีพรรคการเมืองพยายามฟ้องร้องตน ทั้งที่เยาวชนอาจมีแนวโน้มเริ่มใช้กัญชาเพิ่มขึ้น
- การคอร์รัปชัน มีการซื้อขายเสียงนักการเมือง ตนจะทำกิจกรรมเช่นนี้ไปตลอด พร้อมยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามวิถีประชาธิปไตย
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีกระบวนการทำลายชื่อเสียงลูกตนเอง ทั้งนี้ขอถามกลับไปยัง ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นไปในนาม พ.ต.ท. วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช่หรือไม่
ชูวิทย์กล่าวต่ออีกว่า ถ้าทนายตั้มเก่งจริง มั่นใจในหลักฐาน ต้องไปฟ้องศาลหรือแจ้งความ ไม่ควรมาใช้สื่อเป็นเครื่องมือ จากนั้นชูวิทย์ได้โทรศัพท์หา อนันต์ชัย ไชยเดช ในฐานะทนายความของชูวิทย์ พร้อมยืนยันจะฟ้องร้องทนายตั้ม โดยอนันต์ชัยระบุว่าการกระทำของทนายตั้มนั้นถือว่าผิดมรรยาททนายความ และหากยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนยังถือว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ส่วนกรณีชูวิทย์นำเงินไปบริจาคนั้น อนันต์ชัยระบุว่ายังไม่เข้าข่ายการฟอกเงิน เพราะไม่ได้นำไปซื้อทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้อาจต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติม
ชูวิทย์กล่าวด้วยว่า การบริจาคเงินให้โรงพยาบาล ตนขอยืนยันว่าไม่ใช่การฟอกเงิน ในเมื่อตนรับกลับมาคืนให้เจ้าของ ไม่ได้นำเงินไปซื้อหรือลงทุนอะไร ส่วนเรื่องที่ดินซอยสุขุมวิท 10 ของตนที่เคยมีคดีความนั้น ดำเนินการถูกต้องและเสียภาษีตามกฎหมาย