เข้าออกเรือนจำกันอยู่หลายหนสำหรับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองที่ผันตัวเองมาทำงานสื่อ ส่วนอีกรายคือ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาให้มีความผิดตามฟ้องโดยไม่รอการลงโทษ และต้องเข้าไปชดใช้ความผิดในเรือนจำ
แต่ล่าสุดมีรายงานว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ต้องขังคดีแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 1 เดือนเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ช่วงที่เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 เมื่อปี 2556 กำลังจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากโทษจำคุก 1 เดือนจะครบระยะเวลาตามกฎหมาย โดยมีกำหนดปล่อยตัวในวันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
ส่วนนายจตุพรซึ่งถูกจำคุก 1 ปีในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นจะพ้นโทษออกจากเรือนจำในวันที่ 4 สิงหาคมเช่นเดียวกัน สำหรับนายจตุพรนั้น การรับโทษจำคุกในรอบนี้ถือว่าเป็นการติดคุกที่ยาวนานที่สุด แต่ตามขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ เขาได้รับการยกระดับให้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม
ก่อนหน้านี้นายชูวิทย์เคยถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกมาก่อนแล้วในคดีรื้อบาร์เบียร์ โดยให้จำคุก 2 ปีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2559 ก่อนจะได้รับการลดวันต้องโทษตามมาตรา 7 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษจำนวน 1 ใน 4 ของโทษ จึงได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ ซึ่งถือเป็นผู้ต้องขังกลุ่มแรกที่จะได้รับการปล่อยตัวเมื่อปลายปี 2560
ด้านนายจตุพรเคยเข้าออกเรือนจำหลายครั้ง ตั้งแต่การถูกจับกุมเพราะเป็นแกนนำในการพาประชาชนประท้วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กรณีผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาล และจากกรณีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ถึง 2 ครั้ง
หลังจากนี้ต้องจับตาท่าทีของสองนักการเมืองผู้มีบทบาทสำคัญทั้งสร้างสีสันให้การเมืองและเป็นคีย์แมนนำทัพมวลชนคนสำคัญว่าจะเคลื่อนไหวชีวิตตนเองและบทบาทในทางการเมืองอย่างไร หลังก่อนหน้านี้นายชูวิทย์เคยสาบานว่าตนเองจะเลิกเล่นการเมือง ส่วนนายจตุพรยอมรับเงื่อนไขการเดินหน้าสู่การสร้างความปรองดองสามัคคี
