วันนี้ (2 พฤษภาคม) ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีคนนอกว่า กฎหมายเป็นรูปแบบการปกครองที่ชัดเจนอยู่แล้ว กลไกของรัฐธรรมนูญอย่างที่เราเห็นมาจนถึงปัจจุบันก็เป็นกลไกส่วนหนึ่งของภารกิจที่รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ ดังนั้นจะไปออกนอกเหนือจากรัฐธรรมนูญนั้นมันไม่มี
ชวนกล่าวว่า เรื่องตัวบุคคลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ภายใต้เงื่อนไขของระบบสภาก็ทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นผู้แต่งตั้งบุคคลที่มีการเสนอขึ้นมาจากเสียงข้างมาก นี่เป็นไปตามหลักที่ผ่านมาอย่างที่เราได้เห็น ซึ่งมาวันนี้ก็ 3 ปี ส่วนที่เหลืออยู่ 1 ปี อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่อาจไปพยากรณ์ล่วงหน้าได้ แต่เราก็เตรียมให้การทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีความสมบูรณ์ เพราะงานปีสุดท้ายจะมีค้างอยู่มาก โดยตนได้ปรารภกับผู้นำฝ่ายค้านว่าปีที่เราจะเปิดสมัยประชุมครั้งนี้ อยากขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ร่วมกันทำงาน เพราะเป็นงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่อาจเลื่อนไปให้มากกว่านี้ได้ คิดว่าเวลาที่เหลืออยู่การทำงานน่าจะให้งานที่กรรมาธิการได้ทำเอาไว้สามารถผ่านไปได้ พยายามทำทุกเรื่องที่ค้างอยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสเหล่านี้ช่องกฎหมายไม่ได้เปิดเอาไว้ให้ใช่หรือไม่ ชวนกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากรูปแบบที่เป็นอยู่ เพราะว่าเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาแล้ว แน่นอนที่สุดว่ากฎหมายที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วมีอยู่หลายฉบับ ทั้งฝ่ายรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎร กฎหมายสำคัญของปีนี้คือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขณะนี้กำลังรอว่ารัฐบาลจะส่งมาเมื่อไร ซึ่งสภาได้หารือเป็นการภายในเรียบร้อยแล้วว่าหากรัฐบาลส่งมาแล้วเมื่อไหร วันรุ่งขึ้นหรือวันนั้นเราจะส่งให้ ส.ส. ทันที เพื่อศึกษาดูล่วงหน้าอย่างน้อย 9-10 วัน จากนั้นก็จะนัดประชุมกันต่อไป ปกติเราใช้เวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 3 วัน ครั้งนี้คาดว่าต้นเดือนมิถุนายนคงจะพิจารณาได้
ส่วนญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นเรื่องแล้วแต่สมาชิก เสนอเมื่อไร เป็นไปตามวาระของรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่กำหนดเอาไว้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาก็มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกปี
ชวนยังกล่าวถึงกรณีที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกคืนความศรัทธาของพรรคว่า ไม่คิดจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคอีก แต่จะพยายามช่วย เพราะเป็นหนี้บุญคุณพรรคที่ให้โอกาสทำงานมาจากชาวบ้านธรรมดามาเป็นนักการเมืองและมีตำแหน่งต่างๆ ในปัจจุบัน
ชวนยังย้ำไม่ว่าพรรคจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือลง คิดเพียงแต่อยากจะช่วย ภายใต้การทำงานของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่ตนเองและ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค สนับสนุนให้ชนะการแข่งขันจนได้มาเป็นหัวหน้าพรรค กระทั่งผู้ที่แพ้ได้ลาออกจากพรรคไป แต่ความดีงาม ความยืนยาว ความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และสนับสนุนการปกครองประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทำให้พรรคอยู่มาได้มากกว่า 70 ปี พร้อมกันนี้ ชวนยังชื่นชมจุรินทร์ว่าเป็นคนดีและเก่ง ต้องพยายามให้กำลังใจ เพราะเคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่ได้ย้ำกรณีเมื่อมีสมาชิกพรรคไม่เข้าใจอะไร ต้องชี้แจงทำความเข้าใจ อย่านิ่งเฉยๆ
“คนในพรรคต้องช่วยประคับประคองกันไป แม้มีความเข้าใจหรือมีปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ซ้ำเติมพรรคให้ลำบาก” ชวนกล่าวในที่สุด
