‘วอลเลอร์’ ชี้ Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยระดับ 0.50% ต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อคุมเงินเฟ้อ

คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ออกมาส่งสัญญาณว่า Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้

วอลเลอร์ระบุในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่หมัด Fed จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วขึ้นจากปกติ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในระดับ 0.50% ในเดือนพฤษภาคม และอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยในระดับดังกล่าวต่อเนื่องในการประชุมครั้งต่อๆ ไปด้วย

“ข้อมูลทางเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเราอาจต้องใช้ยาแรงในการควบคุมเงินเฟ้อก่อนจะสายเกินไป ซึ่งนั่นหมายถึงการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพฤษภาคม และมีความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นในระดับเดียวกันอีกในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม” วอลเลอร์กล่าว

วอลเลอร์ระบุว่า การฟื้นตัวของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมาจะทำให้เศรษฐกิจสามารถรองรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยและการใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวได้

“เรากำลังต่อสู้กับเงินเฟ้อและเราได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้ ผมคิดว่าเรามีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งพอที่เราจะสามารถใช้นโยบายแบบแข็งกร้าวเพื่อสู้กับเงินเฟ้อได้” วอลเลอร์กล่าว

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่คณะกรรมการ Fed ทุกคนที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับ Waller เพราะในการประชุมเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เสียงของคณะกรรมการที่เห็นว่า Fed ยังไม่ควรเร่งใช้นโยบายที่แข็งกร้าวและควรปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ยังมีมากกว่ากลุ่มที่เห็นว่าควรปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.50% เล็กน้อย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เลล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะกรรมการของ Fed และ Charles Evans ประธาน Fed สาขาชิคาโก ได้ออกมาให้ความเห็นว่า Fed ไม่ควรเร่งดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าว แต่ควรใช้นโยบายแบบเป็นกลางเพื่อประเมินสถานการณ์ในอนาคต

ขณะที่ เจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ในทิศทางเดียวกับวอลเลอร์ว่า การหวังจะคุมเงินเฟ้อโดยใช้นโยบายการเงินอย่างเป็นกลางดูเหมือนจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน

ด้าน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอดีตประธาน Fed ให้ความเห็นว่า การควบคุมเงินเฟ้อถือเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของ Fed ควบคู่กับการดูแลตลาดแรงงาน อย่างไรก็ดี การจะทำทั้งสองอย่างให้ออกมาดีได้ผู้บริหารจำเป็นต้องมีทักษะสูงและบางทีอาจต้องพึ่งพาโชคด้วยเช่นกัน

อ้างอิง: