วันนี้ (12 พฤษภาคม) การปราศรัยใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมงนับตั้งแต่ช่วง 17.00 น. จนกระทั่งเวลา 19.30 น. โดยประมาณ
ในช่วงแรกเป็นการปราศรัยโดนแกนนำของพรรครวมไทยสร้างชาติ เช่น ธนกร วังบุญคงชนะ, สุชาติ ชมกลิ่น, นพ.เหรียญทอง แน่นหนา, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์
ขณะที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคกล่าวปราศรัยระบุตอนหนึ่งว่า ตอนนี้คิดว่าการเมืองถูกเปลี่ยนแปลง เพราะมีบางกลุ่มพยายามที่จะใช้การเมืองเปลี่ยนประเทศไป ตนไม่มีวันยอมให้ใครมาเปลี่ยนประเทศไปในทางที่ไม่ดี
“พวกเราทุกคนไม่ใช่แค่ใช้ปากกาออกไปเลือกตั้ง แต่พวกเราจะเป็นช้างศึกปกป้องแผ่นดินไทย และจะเหยียบโพลให้จมแผ่นดินไปเลย และคนที่จะมานำพาประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา” พีระพันธุ์กล่าว
ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวปราศรัยถึงความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ก่อนที่จะเปิดวีดิทัศน์ชุด ‘ต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปจริงหรือ’ ซึ่งถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ของพรรครวมไทยสร้างชาติมาแล้วก่อนหน้านี้
หลังจบวีดิทัศน์ดังกล่าว พล.อ. ประยุทธ์หยุดนิ่ง ก่อนที่จะกล่าวว่า ทุกคนคงมีความรู้สึกเช่นเดียวกับตน เห็นแล้วมันสะท้อนใจ เจ็บปวดในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราไม่รักกัน เราไม่ช่วยกัน สิ่งต่างๆ ที่เราคาดไม่ถึงมันจะเกิดขึ้น ซึ่งเรายอมรับไม่ได้ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนในฐานะที่เป็นคนไทยต้องช่วยกัน ทำให้บ้านเมืองนี้มีความสงบเรียบร้อย
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วตนเองเป็นคนที่รับฟังทุกเรื่อง ทุกอย่าง ทุกช่องทาง เพื่อที่จะนำมาประมวลว่าเราจะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร อย่างมีสติ อย่างมีสมองที่จะครุ่นคิด ยอมเหนื่อย ยอมเจ็บปวด ก่อนที่จะหยุดพูดไปสักพักหนึ่ง และกล่าวต่อว่า “เพื่อคนไทย”
“วันนี้ผมย้ำอีกครั้งว่าประเทศไทยของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีการพัฒนาประเทศ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพื่อกลับไปสู่ความเดือดร้อน ความไม่สงบสันติ เราต้องทำให้ประเทศไทยนั้นเดินหน้าไปต่อให้ดีที่สุด ให้สงบที่สุด ด้วยความรักที่มอบให้แก่กัน เราไม่ใช่ศัตรูกัน ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร ทุกคนเราไม่ใช่ศัตรูของใคร เราต้องให้อภัยซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงตรงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวสู่การพัฒนา
“เราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกแผ่นดิน ท่านรับได้หรือ อะไรจะเสียหายบ้างรู้ไหม เราเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดินไปครั้งเดียวไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะพลิกอะไร วันนี้เรามีของเราอยู่แล้ว อยู่ที่พวกเราทุกคน คนไทยทุกคน ดังนั้นที่ผมบอกว่าหัวใจผมโตเพราะหัวใจผมยิ่งใหญ่ขึ้น ต้องรักกันให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
พล.อ. ประยุทธ์ยังยอมรับว่า บางครั้งตนก็รู้สึกเจ็บปวดที่หลายคนไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ตนได้รับกลับมาในวันนี้คือกำลังใจมากกว่า ทำให้ผมมีกำลังใจในการที่จะเดินหน้าประเทศไทยไปข้างหน้า เราจะไม่หันหลังกลับไปอีกแล้ว ตนจะไม่ยอมก้าวถอยหลังไปอีกแล้ว เราต้องจับมือกัน ร่วมมือกัน ลากกัน อุ้มกันไป เดินไปข้างหน้า อย่าหยุดอยู่กับที่เด็ดขาด อย่าให้อะไรมาชะงัก เราจะต้องเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น เปลี่ยนแปลงในการพัฒนาประเทศที่ดีขึ้น เพิ่มความรักความสามัคคีให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลูกหลาน เพื่ออนาคตของพวกเราทุกคน
“เราจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายรากเหง้าของประเทศไทยเป็นเด็ดขาด สังคมครอบครัว สังคมการเคารพผู้ใหญ่ สังคมการนับถือศาสนา สังคมความรักความสามัคคี ผมเห็นรอยยิ้มวันนี้แล้วผมชื่นใจ ทุกคนต้องไม่ปล่อยให้ผมสู้อยู่คนเดียว”
โดยในช่วงท้ายยังขึ้นข้อความ ‘อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ออกมาปกป้องสิ่งที่เรารัก เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ’ อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ปราศรัย พล.อ. ประยุทธ์ยังมีดวงตาแดงก่ำ และสะอื้นหลั่งน้ำตาบางช่วง รวมถึงแกนนำที่มาร่วมฟังปราศรัยก็มีอาการสะอื้น และในช่วงท้ายเวทียังเปิดเสียงช้างคำราม ปักธงชาติ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป