จริงๆ แล้วเครื่องดื่มคลอโรฟิลล์นั้นเป็นที่รู้จักมานานทั้งในไทยและต่างประเทศ หลายคนเคยดื่ม แต่หลายคนก็หันหลังให้เพราะไม่ชอบสีเขียวๆ และกลิ่นของมัน ขณะที่ในในโลก TikTok สาวๆ ที่รักสวยรักงามกลับกำลังเห่อเทรนด์ดื่มน้ำคลอโรฟิลล์กันเป็นจำนวนมาก โดยเข้าใจว่ามันช่วยลดสิวและสร้างผิวสวยได้ จากความฮอตฮิตดังกล่าวก่อให้เกิดแฮชแท็ก #chlorophyllwater ขึ้น และมีผู้เข้าชม TikTok ของเทรนด์ดื่มน้ำคลอโรฟิลล์ไปแล้วกว่า 29.3 ล้านครั้ง ส่งผลให้กระแสความต้องการผลิตภัณฑ์คลอโรฟิลล์ที่มีจำหน่ายตามร้านออนไลน์กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ทั้งนี้เราไม่อยากให้สาวไทยเห่อตามเทรนด์จนลืมพิจารณาข้อมูลที่ถูกต้องของคลอโรฟิลล์ก่อนจะซื้อมาชงแล้วดื่มไปตามเทรนด์
เพราะเรื่องสรรพคุณของคลอโรฟิลล์นั้นเคยมีประเด็นถกเถียงกันว่าดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ดื่มแล้วปลอดภัยไหม มีอันตรายหรือผลข้างเคียงอะไรตามมาหรือเปล่า บ้างก็ว่าคลอโรฟิลล์มีส่วนช่วยในการขับสารพิษในร่างกาย แต่จากข้อมูลของ สสส. ประเทศไทย ระบุว่า สารคลอโรฟิลล์เป็นกลุ่มของรงควัตถุที่มีอยู่ในพืชที่มีสีเขียวตามธรรมชาติ สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือ ประเภทที่ละลายในน้ำ และประเภทที่ละลายในไขมัน คลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ตามธรรมชาตินั้นเป็นสารที่มีขนาดโมเลกุลที่ค่อนข้างใหญ่ ส่งผลให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ และเมื่อร่างกายไม่สามารถรับสารชนิดนี้ได้ จึงส่งผลให้ไม่ได้รับประโยชน์จากการรับประทานเท่าที่ควร คลอโรฟิลล์ที่เรานำมาบริโภคกันจึงจำเป็นจะต้องผ่านกระบวนการผลิต โดยการสกัดและทำปฏิกิริยาเคมีกับสารต่างๆ เช่น Acetone, Hexane, Copper เป็นต้น จนเกิดเป็นสารใหม่ที่ไม่ใช่สารที่มาจากธรรมชาติโดยตรง ซึ่งก็คือ Chlorophyllin ที่แปลงสภาพมาจาก Chlorophyll ในปัจจุบัน จากการศึกษาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์พบว่า ยังไม่มีการสรุปในระดับที่น่าเชื่อถือได้ว่าคลอโรฟิลล์ที่เรานำมาบริโภคในรูปของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ
และประเด็นที่อ้างว่าดื่มแล้วช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้นั้น ข้อเท็จจริงก็มีระบุว่าคลอโรฟิลล์เองไม่ได้มีลักษณะเป็นเส้นใยตามธรรมชาติ ที่จะทำหน้าที่เพิ่มปริมาณอุจจาระและช่วยดูดซับเอาสารพิษออกจากร่างกายในรูปของของเสีย ดังนั้นคุณสมบัติในด้านนี้จึงไม่ได้มากเท่ากับการรับประทานพืชผักผลไม้ที่มีกากใยสำหรับสรรพคุณในด้านการทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง จากการศึกษาการวิจัยต่างๆ ยังไม่พบรายงานที่เชื่อถือได้ว่าสารชนิดนี้จะช่วยล้างพิษในร่างกายและทำให้หน้าใสเปล่งปลั่งแต่อย่างใด
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำคนอ่านว่า โดยทั่วไปแล้วเราสามารถได้รับสารคลอโรฟิลล์จากพืชทั่วๆ ไป การรับประทานผักผลไม้ที่มีสีเขียวจะช่วยให้ร่างกายของเราได้รับคลอโรฟิลล์เช่นกัน เพราะสารคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในรูปธรรมชาตินี้จะอยู่ในรูปคลอโรฟิลล์ที่ละลายในน้ำมัน เช่น ในผักชีฝรั่ง 1 ถ้วยมีคลอโรฟิลล์สูงถึง 38 มิลลิกรัม ผักขม 1 ถ้วยมีคลอโรฟิลล์ 23.7 มิลลิกรัม ดังนั้นหากเรารับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ ร่างกายก็ไม่จำเป็นจะต้องได้รับคลอโรฟิลล์เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ภาพ: Tiktok
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.refinery29.com/en-us/2021/04/10421425/chlorophyll-water-tiktok-acne-skin?utm_source=feed&utm_medium=rss
- https://www.thaihealth.or.th/blog/myblog/topic/480/jomy20nn/654/E0B884E0B8A5E0B8ADE0B982E0B8A3E0B89FE0B8B4E0B8A5E0B8A5E0B98C20E0B894E0B8B5E0B888E0B8A3E0B8B4E0B887E0B8ABE0B8A3E0B8B7E0B8ADE0B8ABE0B8A5E0B8ADE0B881/1433/E0B884E0B8A5E0B8ADE0B982E0B8A3E0B89FE0B8B4E0B8A5E0B8A5E0B98C20E0B894E0B8B5E0B888E0B8A3E0B8B4E0B887E0B8ABE0B8A3E0B8B7E0B8ADE0B8ABE0B8A5E0B8ADE0B881/#.YHkCuS0RpQI