ในยุคหลังโรคระบาดที่ทำให้เศรษฐกิจบอบช้ำอย่างหนัก เงินในกระเป๋าเบาหวิว แต่ความกระตือรือร้นของผู้บริโภคชาวจีนสำหรับ ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ กลับไม่ได้ลดลง
เรื่องนี้ไม่ได้เกินจริงเลย เพราะสามารถสะท้อนได้จากการที่ Hermès แบรนด์หรูฝรั่งเศสได้ตัดสินใจเปิดร้านแห่งใหม่ที่เมืองเจิ้งโจว เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา โดยร้านตั้งอยู่ใน City of David of Dennis Group ศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ในเจิ้งโจว ซึ่งนี่ถือเป็นร้านที่สามของแบรนด์ในจีนตอนกลาง
ในวันแรกที่เปิดตัวมีคิวยาวอยู่ด้านนอกร้าน และลูกค้าบางคนถึงกับรอถึงสี่ชั่วโมง โดยภาพที่ถูกถ่ายและคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์บน Little Red Book แพลตฟอร์มที่เหมือน Instagram พร้อมคำบรรยายหนึ่งข้อความว่า “โควิดไม่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนรวย” ขณะที่ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “ว้าว เจิ้งโจวมีคนรวยมากมายจริงๆ”
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยอดขายของ Hermès เพิ่มขึ้นสูงถึง 33% ในไตรมาสแรกของปี 2022
- ซีอีโอของ Hermès ย้ำ ‘ไม่มีกลยุทธ์ขึ้นราคา’ อย่างมีนัยสำคัญ สวนทาง Louis Vuitton ซึ่งขึ้นราคาโดยเฉลี่ย 7% ทั่วโลก
- Hermès ทำยอดขายสูงถึง 88 ล้านบาทในวันแรกที่ร้านสาขากวางโจวกลับมาเปิดให้บริการ
“ผู้คนในเมืองต่างๆ เช่น เจิ้งโจว หรือที่เรียกว่าเมืองระดับล่างยังคงร่ำรวยมาก และพวกเขาไม่ได้ใช้จ่ายมากขนาดนั้นในช่วง 18 หรือ 24 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเขาจึงมีกำลังบริโภคมหาศาล” ไมเคิล เฉิง ผู้บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ PwC ในฮ่องกงกล่าว
“ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยยังคงสูงมาก และผู้บริโภคชาวจีนจะยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาด (สินค้าฟุ่มเฟือย) แม้ว่าข้อจำกัดด้านการเดินทางจะผ่อนคลายลงก็ตาม”
Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก รายงานสินค้าฟุ่มเฟือยในจีน (China Luxury Report) ปี 2021 เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 4.71 แสนล้านหยวน (ราว 2.45 ล้านล้านบาท) โดยยอดจำหน่ายของปี 2021 เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยคาดว่าจีนจะกลายเป็นตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2025
แบรนด์หรูหันไปสู่ตลาดในเมืองระดับล่างของจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรูยังมีอำนาจพอๆ กับเมืองที่มั่งคั่งอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น
เมืองระดับบนอย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งนั้นอิ่มตัวด้วยร้านค้าหรูหราและค่าเช่าก็สูงเป็นพิเศษ ซึ่งเฉิงกล่าวว่า ปัจจัยเหล่านี้จะผลักดันแบรนด์ต่างๆ ให้เจาะตลาดในเมืองเล็กๆ ของจีน
การที่ไม่สามารถเดินทางไปยังต่างประเทศได้ทำให้ชาวจีนที่ร่ำรวยได้หันมาซื้อสินค้าหรูภายในประเทศแทน ตัวอย่างเช่นชาวจีนบางคนหันไปหามณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีน ซึ่งการใช้จ่ายในร้านค้าปลอดภาษีเพิ่มขึ้นกว่า 80% ในปีที่แล้ว
สำหรับร้าน Hermès ที่เพิ่งเปิดตัว มีสินค้า 16 หมวดหมู่ รวมทั้งเสื้อผ้า เครื่องหนัง นาฬิกา และเครื่องประดับ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดร้านได้มีการนำคอลเล็กชันกระเป๋าและเครื่องประดับหายากมาวางขาย โดยบางชิ้นมีราคามากถึง 2 ล้านหยวน หรือ 11 ล้านบาท
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในวันแรกมีพนักงานขาย 18 คนปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่สูง โดยเมื่อถึงเวลา 18.00 น. สินค้าส่วนใหญ่ก็ใกล้จะขายหมดแล้ว
“แบรนด์จำเป็นต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความภักดีกับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงของพวกเขา และสรรหาลูกค้าใหม่ให้กับแบรนด์ของพวกเขาด้วยคอลเล็กชันและข้อเสนอที่น่าสนใจ” กรรมการผู้จัดการของ Agility Research & Strategy กล่าว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ซื้อชาวจีนตอบรับร้าน Hermès สาขาใหม่อย่างกระตือรือร้น ในเดือนเมษายน 2020 มีรายงานว่าการเปิดร้านใหม่ที่กวางโจวมียอดขายทะลุ 19 ล้านหยวน หรือราว 100 ล้านบาท สร้างสถิติเป็นร้านเดียวที่มียอดขายมากที่สุดของ Hermès China
Hermès เพิ่งรายงานผลประกอบการล่าสุดของแบรนด์ไตรมาสแรกของปี 2022 ที่ยังทำยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 33% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยเพียงแค่ 3 เดือนแรก แบรนด์หรูจากประเทศฝรั่งเศสปิดยอดขายไปได้ทั้งสิ้น 2,765 ล้านยูโร หรือราว 100,476 ล้านบาท แถมยังพบว่ามีการเติบโตในทุกภูมิภาคและในทุกกลุ่มสินค้าอีกด้วย
ภาพ: Chukrut Budrul / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3172762/chinese-consumers-splurge-luxury-goods-covid-hasnt-changed
- https://fashion.sina.com.cn/s/fo/2022-04-02/0359/doc-imcwipii1790557.shtml
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP