วันนี้ (28 มกราคม) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มกราคมนี้ ประชาชนจะไปเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษ รัฐบาลโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดสายตรวจและฝ่ายปราบปรามลงพื้นที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์นี้ โดยเน้นย้ำดูแลควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีไปแล้วหลายรายที่พบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบ ทั้งนี้ กรมการค้าภายในกำชับให้ร้านค้าติดป้ายราคาอย่างชัดเจน พร้อมเตือนร้านค้าที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าว่ามีโทษตามกฎหมาย
ศศิกานต์กล่าวว่า คาดการณ์ว่าเทศกาลตรุษจีนปีนี้ประชาชนจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รัฐบาลสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
เทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีน ที่คาดว่าจะสร้างการจับจ่ายและเม็ดเงินสะพัดจำนวนมาก ทั้งการซื้อสินค้าเพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ การพบปะญาติพี่น้องร่วมฉลองเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ และการท่องเที่ยว โดยคาดว่าเม็ดเงินจากการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะอยู่ที่ราว 51,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.5% ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี และเป็นมูลค่าที่ขึ้นไปแตะระดับ 50,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ช่วงโรคโควิด
ศศิกานต์กล่าวต่อว่า รัฐบาลเชิญชวนประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐได้ เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการ Easy e-Receipt เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการไม่ติดป้ายแสดงราคาสามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่