จีนครองแชมป์ประเทศที่มีเศรษฐีอพยพออกจากประเทศมากที่สุดในโลก โดยมีเศรษฐีย้ายออกสุทธิ 10,800 คน ในปี 2022 ขณะที่สหราชอาณาจักรคาดว่าจะเผชิญการอพยพออกของเศรษฐีเพิ่ม 2 เท่าในปีนี้ ท่ามกลางผลกระทบจาก Brexit และการถกเถียงเรื่องการขึ้นภาษี
Henley & Partners บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อขอสัญชาติและที่อยู่อาศัยระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงาน Private Wealth Migration ประจำปี 2023 ที่แสดงให้เห็นว่า ‘เศรษฐี’ หรือผู้มีความมั่งคั่งในการลงทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ในจีน ย้ายออกจากประเทศสุทธิ 10,800 คน ในปี 2022 และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสุทธิ 13,500 คน ในปี 2023
ตัวเลขเหล่านี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการผลักดันนโยบาย ‘รุ่งเรืองร่วมกัน’ (Common Prosperity) ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการในจีนแห่โยกย้ายความมั่งคั่งไปยังประเทศหรือดินแดนที่เป็นมิตรมากขึ้น เช่น สิงคโปร์ ท่ามกลางการบังคับใช้นโยบายการควบคุมการระบาดที่ยืดเยื้อ ซึ่งได้เพิ่มเหตุผลทำให้เศรษฐีในจีนต้องไปใช้ชีวิตในต่างประเทศมากขึ้น
ขณะที่ Andrew Amoils หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก New World Wealth ชี้ให้เห็นว่า อัตราการเติบโตของความมั่งคั่งในจีนได้ชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าการอพยพของเศรษฐีในปีล่าสุดอาจสร้างความเสียหายมากกว่าปกติ
โดยในปี 2022 ประเทศที่พบเศรษฐีย้ายออกจากประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 2 คือรัสเซีย ที่สุทธิ 8,500 คน คาดว่าจะมีอัตราอพยพชะลอตัว เหลือย้ายออกสุทธิ 3,000 คน ในปี 2023
ขณะเดียวกัน ผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals: HNWI) คือผู้ที่มีความมั่งคั่งตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป ในสหราชอาณาจักร ก็มีแนวโน้มที่จะอพยพออกจากประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จาก 1,600 คน ในปี 2022 เป็น 3,200 คน ในปี 2023 โดยรายงานได้อ้างถึงประเด็นจากการถกเถียงเรื่องภาษีไปจนถึง Brexit
ในทางกลับกัน ออสเตรเลียคาดว่าจะแซงหน้าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กลายเป็นประเทศที่ดึงดูด HNWIs มากที่สุดในปีนี้ โดยมีสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 3 นอกจากนั้น Henley & Partners ยังคาดว่าจะมีเศรษฐีประมาณ 5,200 คน จะย้ายไปออสเตรเลียในปีนี้
อ้างอิง: