วานนี้ (24 พฤษภาคม) หน่วยข่าวกรองชาติตะวันตกและบริษัทไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ชาวจีนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐสอดแนมองค์กรด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงองค์กรโทรคมนาคมและศูนย์กลางการขนส่ง
รายงานของไมโครซอฟท์ชี้ว่า กลุ่มแฮกเกอร์จีนดังกล่าวยังพุ่งเป้าสอดแนมและจารกรรมข้อมูลในพื้นที่เกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของฐานทัพอเมริกา
เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนว่ามีกี่องค์กรที่ได้รับผลกระทบจากการสอดแนมดังกล่าว โดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) เผยว่า กำลังทำงานร่วมกับสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) และชาติพันธมิตร ทั้งแคนาดา, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร เพื่อตรวจสอบช่องโหว่ที่ถูกสอดแนม ขณะที่ทั้ง 4 ประเทศมีการเตือนว่า อาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มแฮกเกอร์จีนเช่นกัน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของไมโครซอฟท์เผยว่า มีความมั่นใจในระดับปานกลางว่ากลุ่มแฮกเกอร์ชาวจีนกลุ่มนี้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า Volt Typhoon กำลังพัฒนาขีดความสามารถที่อาจขัดขวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่สำคัญระหว่างสหรัฐฯ กับภูมิภาคเอเชีย สำหรับช่วงวิกฤตในอนาคต และเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์จีนเริ่มปฏิบัติการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2021 เป็นอย่างน้อย และมีเป้าหมายในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงภาคการสื่อสาร, การผลิต, สาธารณูปโภค, การขนส่ง, การก่อสร้าง, การเดินเรือ, รัฐบาล, เทคโนโลยีสารสนเทศ และการศึกษา
ทั้งนี้ NSA และหน่วยงานไซเบอร์ของหลายชาติตะวันตก เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ที่ดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญตรวจสอบกิจกรรมที่เป็นอันตราย โดยให้ใช้คำแนะนำทางเทคนิคที่ออกให้
“สิ่งสำคัญคือ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติที่สำคัญต้องดำเนินการเพื่อป้องกันผู้โจมตีที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบของพวกเขา” พอล ชิเชสเตอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร กล่าวในแถลงการณ์ร่วมกับ NSA
ด้านสำนักข่าว Reuters เผยว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงวอชิงตันยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อการเปิดเผยดังกล่าว
ขณะที่จีนและสหรัฐฯ มีการสอดแนมระหว่างกันเป็นประจำ ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า “นี่เป็นหนึ่งในแคมเปญจารกรรมทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อต่อต้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสหรัฐฯ”
ภาพ: Jakub Porzycki / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: