มีคำกล่าวว่า “เกษตรกรรมทำให้จีนมั่นคง อุตสาหกรรมทำให้จีนเข้มแข็ง และพาณิชย์ทำให้จีนร่ำรวย”
เมื่อพูดถึงชนชาติที่ค้าขายเก่งที่สุดในโลก การรับรู้ของคนทั่วไปนั้นจะมีชนชาติจีนรวมอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน หลายคนมองว่าสิ่งเหล่านี้อยู่ในสายเลือด หรือมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมจีนตั้งแต่สมัยอดีตกาล
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษามองว่า สิ่งนี้ไม่ได้มาจากวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว
ศาสตราจารย์ ดร.หลี่ เหรินเหลียง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา ประชาคมอาเซียนศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า จีนในสมัยโบราณเป็นประเทศที่เน้นเกษตรกรรมเพื่อเลี้ยงปากท้องเป็นหลัก โดยให้คุณค่าสูงต่อการทำการเกษตร และจวบจนปัจจุบันรัฐบาลจีนภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์ก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ดังสะท้อนให้เห็นจากเอกสารหมายเลข 1 ของรัฐบาลที่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาภาคเกษตรกรรมและชนบท และความเป็นอยู่ของเกษตรกร เป็นหมุดหมายสำคัญลำดับแรกของรัฐบาล
จะเห็นได้ว่า แม้จีนเป็นประเทศกว้างใหญ่ แต่มีพื้นที่สำหรับทำการเกษตรคิดเป็น 7% ของโลกเท่านั้น เพื่อหล่อเลี้ยงประชากร 1,400 ล้านคน หรือคิดเป็น 20% ของโลก ดังน้ันภาคการเกษตรจึงเป็นเสาหลักสำคัญที่ค้ำจุนสังคมจีนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ในการบรรยายพิเศษหัวข้อ ‘วัฒนธรรมจีนกับการค้าขายในสายเลือด’ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ดร.หลี่ เหรินเหลียง อธิบายเพิ่มเติมว่า อุดมคติของชาวจีนโบราณคือการรับราชการ เป็นขุนนาง หรือการสอบจอหงวน ในขณะที่อาชีพพ่อค้าถูกมองว่าไร้เกียรติ ลัทธิขงจื๊อที่เป็นรากฐานวัฒนธรรมจีนเน้นเรื่องคุณธรรมมากกว่าการแสวงหากำไร ส่งผลให้พ่อค้าในอดีตถูกจำกัดสิทธิ์และถูกดูหมิ่น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางสังคมทำให้ชาวจีนค่อยๆ พัฒนาความสามารถด้านการค้า ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสมทักษะมาตั้งแต่สมัยโบราณ การที่ประชากรหนาแน่นจนต้องเลือกค้าขายเพื่อความอยู่รอด บทบาทของครอบครัวที่ร่วมมือกันทำธุรกิจ (กงสี) รวมถึงอิทธิพลจากตะวันตกในช่วงปลายราชวงศ์ชิง จนถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทำให้พ่อค้าและผู้ประกอบการได้รับการยอมรับมากขึ้นในสังคม โดยมองเรื่องของผลกำไรว่ามีความชอบธรรมมากขึ้น แม้จะขัดกับความเชื่อในลัทธิขงจื้อในอดีตก็ตาม
ดร.หลี่ ยังชี้ให้เห็นลักษณะการค้าของชาวจีนที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคด้วย เช่น พ่อค้าจีนทางเหนือเน้นการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ ขณะที่พ่อค้าจีนทางภาคตะวันออกเน้นความพิถีพิถันและสนใจนวัตกรรม ส่วนพ่อค้าจีนตอนใต้มีลักษณะกล้าเสี่ยงและเชี่ยวชาญการค้าระหว่างประเทศ และพ่อค้าจีนทางตะวันตกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท้องถิ่น
การบรรยายครั้งนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย–จีน รุ่นที่ 2 (Young Executive Program บทจ.2) ได้สะท้อนให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจแก่นแท้วัฒนธรรมการค้าของจีนมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับพันธมิตรชาวจีนในแต่ละภูมิภาค
หลักสูตรนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน สมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน และหอการค้าไทย–จีน โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ China Media Group เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย–จีนอย่างยั่งยืน
ภาพ: OlhaKu via ShutterStock