วานนี้ (15 พฤษภาคม) ศาลจีนในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซูของจีน ตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต จอห์น ชิง-วัน เหลียง พลเมืองอเมริกันวัย 78 ปี ผู้มีถิ่นพำนักถาวรในฮ่องกง ด้วยข้อหาเป็นสายลับ หลังจากที่จอห์นถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของจีนจับกุมตัวได้เมื่อ 2 ปีก่อน
ศาลจีนระบุว่า “จอห์นถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานจารกรรมข้อมูล โดยจะถูกจำคุกตลอดชีวิตและถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน”
ด้านโฆษกสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า “พวกเขารับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้คำนึงถึงสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าความปลอดภัยและความมั่นคงของพลเมืองสหรัฐฯ ในต่างประเทศ”
เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อคำตัดสินของศาลจีน และโดยทั่วไปแล้วการพิจารณาคดีในพื้นที่ปิดเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติในจีน และแทบจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะสำหรับคดีที่ละเอียดอ่อน อาทิ คดีที่เกี่ยวข้องกับข้อหาจารกรรม อย่างไรก็ตาม การตัดสินโทษสถานหนักเช่นนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ
โดยในเดือนกรกฎาคมปีนี้ กฎหมายด้านความมั่นคงฉบับใหม่ของจีนจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะควบรวมถึงขอบเขตของกฎหมายจารกรรมที่จะสั่งห้ามไม่ให้เกิดการส่งข้อมูลใดๆ ที่ทางการจีนเห็นว่าเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศชาติ
บรรดาสื่อจีนและสหรัฐฯ ต่างระบุว่า จอห์นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับองค์กรด้านวัฒนธรรม ซึ่งเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและองค์ความรู้ต่างๆ ของจีนกับชาวต่างชาติในสหรัฐฯ ทั้งยังเป็นประธานมูลนิธิ Leung Cultural Exchange Foundation ที่จะส่งนักดนตรีไปแสดงทั้งในจีนและสหรัฐฯ อีกด้วย
การจับกุมตัวและตัดสินโทษสถานหนักแก่จอห์นในครั้งนี้ มีแนวโน้มที่อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่การเริ่มเปิดฉากทำสงครามการค้ากับจีนในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2018 อีกทั้งสองมหาอำนาจนี้ยังปะทะกันในประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณีไต้หวัน การเสริมกำลังทางการทหารในแถบทะเลจีนใต้ของจีน รวมถึงการหาจุดกำเนิดการแพร่ระบาดของโควิด และกรณีโดรนสอดเเนมเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 2023 แม้ทางการจีนจะยืนยันว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในงานด้านอุตุนิยมวิทยาก็ตาม
ภาพ: Valery Evlakhov / Shutterstock
อ้างอิง: