ศูนย์นโยบายการพัฒนาระดับโลกแห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน เปิดเผยรายงานวิจัยฉบับใหม่ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จีนลงทุนในต่างประเทศนั้น มีการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจก สูงถึงราว 245 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบได้กับปริมาณการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของบางประเทศ เช่น สเปน หรือไทย
งานวิจัยดังกล่าวระบุว่า บริษัทของจีนและธนาคารเพื่อการลงทุนภายใต้การดำเนินการของรัฐบาลปักกิ่ง ได้สนับสนุนเงินทุนสำหรับการผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศรวมถึง 171.6 กิกะวัตต์ หรือคิดเป็นโรงไฟฟ้าทั้งหมด 648 แห่งใน 92 ประเทศ
ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศของจีน ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในทวีปเอเชีย โดยมากกว่า 50% เป็นโรงผลิตไฟฟ้าแบบถ่านหิน ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าจีนสามารถลดการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้น หากมุ่งเน้นในจุดนี้
“ในขณะที่จีนได้ดำเนินการในหลายขั้นตอน เพื่อลดการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ยังมีสิ่งต่างๆ ที่สามารถทำได้มากกว่านี้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกของจีน ซึ่งรวมถึงการมุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเอเชียที่จีนมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด และมากกว่า 50% เป็นแบบถ่านหิน”
เซซิเลีย สปริงเกอร์ (Cecilia Springer) นักวิจัยจากศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยบอสตัน ระบุว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศทั้งหมดที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนนั้น เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงฟอสซิล และท่อส่งของโครงการต่างๆ สามารถเพิ่มการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มอีก 100 ล้านตันต่อปี หากเสร็จสิ้นทั้งหมด
“พอร์ตโฟลิโอด้านพลังงานในต่างประเทศของจีนยังคงถูกครอบงำด้วยถ่านหินและพลังน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนสามารถทำได้มากกว่านี้เพื่อดำเนินการตามคำมั่นที่จะสนับสนุนพลังงานสีเขียว และพลังงานคาร์บอนต่ำในประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เมื่อปีที่แล้วว่า จีนจะหยุดการลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์
โดยคำมั่นสัญญาของสี นำไปสู่การยกเลิกโครงการในต่างประเทศหลายโครงการทันที แม้ว่าบางโครงการจะยังอยู่ใน ‘พื้นที่สีเทา’ และยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ก็ตาม
ภาพ: Photo by China Photos / Getty Images
อ้างอิง: