เอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ไม่เต็มใจที่จะรับการฉีดวัคซีนของตะวันตก แม้ว่าจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด ขณะที่ชี้ว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นในจีนช่วงหลายวันที่ผ่านมาไม่ใช่ภัยคุกคามต่อพรรคคอมมิวนิสต์ แต่อาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพส่วนบุคคลของประธานาธิบดีสี
การเปิดเผยข้อมูลของเฮนส์มีขึ้นระหว่างขึ้นกล่าวภายในงาน Reagan National Defense Forum ประจำปี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวานนี้ (3 ธันวาคม) โดยเธอกล่าวว่า “แม้จะเผชิญผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากโควิด แต่สีก็ไม่เต็มใจที่จะรับวัคซีนที่ดีกว่าจากชาติตะวันตก และหันไปพึ่งวัคซีนในจีนที่แทบจะไม่มีประสิทธิภาพต้านทานโควิดสายพันธุ์โอมิครอน”
ทั้งนี้ แม้ว่าจำนวนผู้ติดโควิดรายวันของจีนจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ในบางเมืองกำลังดำเนินการผ่อนคลายการตรวจเชื้อและกักกันโรค หลังจากที่นโยบาย Zero-COVID ที่สีเน้นย้ำ ก่อให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และเกิดการชุมนุมประท้วงของประชาชนที่ต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม เฮนส์มองว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขั้นเป็นภัยคุกคามเสถียรภาพหรือเปลี่ยนระบอบการปกครองได้
“ดูจากการประท้วงและการรับมือนั้นสวนทางกับเรื่องเล่าที่เขาชอบหยิบยกขึ้นมา ซึ่งก็คือจีนนั้นมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมากกว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในขณะนี้ หรือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหรืออะไรทำนองนั้น” เธอกล่าว พร้อมชี้ว่า “การพัฒนาของจีนจะมีความสำคัญต่อสถานภาพของสีได้อย่างไร”
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการจีนได้ยกเลิกมาตรการควบคุมและป้องกันโควิดในเมืองกวางโจวและฉงชิ่งอย่างกะทันหัน หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ประท้วงตะลุมบอนกับตำรวจ
ขณะที่เมื่อวานนี้ทางการท้องถิ่นในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด โดยประชาชนไม่ต้องแสดงผลตรวจเชื้อเป็นลบเพื่อใช้บริการการขนส่งสาธารณะหรือเข้าในสวนสาธารณะอีกต่อไป เป็นการผ่อนคลายในลักษณะเดียวกับเมืองเฉิงตูและเทียนจินที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับในกรุงปักกิ่ง บูธตรวจเชื้อหลายแห่งของเมืองถูกปิด เนื่องจากทางการยุติมาตรการขอผลตรวจเชื้อเป็นลบเพื่อเข้าสถานที่สาธารณะ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ เป็นความพยายามอย่างชัดเจน เพื่อรับมือกับความไม่พอใจต่อนโยบาย Zero-COVID ของทางการ ขณะที่รัฐบาลยังได้ประกาศแผนการเพิ่มการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุด้วย
ที่ผ่านมารัฐบาลจีนไม่อนุมัติใช้วัคซีนโควิดจากต่างประเทศ โดยเลือกใช้วัคซีนที่ผลิตในประเทศ ซึ่งผลวิจัยแนะนำว่าไม่มีประสิทธิภาพเทียบได้กับวัคซีนจากต่างประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิดของจีนอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงสูง
ภาพ: Nicolas Asfouri / AFP
อ้างอิง: