กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมจีน หลังรัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนให้แต่ละครอบครัวมีลูกเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและการขาดแคลนวัยทำงาน แต่ในขณะที่ทางการท้องถิ่นหลายพื้นที่ยังเก็บค่าธรรมเนียม ‘Social Maintenance Fee’ ในอัตราที่สูงหลังจากที่เด็กคลอด เพื่อนำเงินไปพัฒนาท้องถิ่น สร้างความไม่พอใจให้กับชาวจีนในหลายพื้นที่เป็นอย่างมาก
ในเขตมณฑลชานตง ทางภาคตะวันออกของจีน ตระกูลหวังเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ถูกทางการท้องถิ่นเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวหลังจากคลอดลูกคนที่ 3 เมื่อต้นปี 2017 ได้เพียงไม่นาน โดยคิดเป็นเงินมูลค่า 64,626 หยวน (ราว 3 แสนบาท) เพื่อเป็นค่าบำรุงสวัสดิการสังคมรองรับเด็กที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของครอบครัวเป็นอย่างมาก
จนเกิดคำถามว่า แนวทางนโยบายของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางเดียวกับหน่วยงานในระดับท้องถิ่นหรือไม่ เพราะการเพิ่มจำนวนสมาชิกในครอบครัว นั่นหมายถึงการเพิ่มต้นทุนและภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว
มาตรการเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวของรัฐบาลจีนเริ่มมีขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ก่อนที่จะเห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดจากนโยบายลูกคนเดียวเมื่อปี 1980 ซึ่งในขณะนั้นมีการจำกัดจำนวนเด็กที่เกิดมาอย่างจริงจัง แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา นโยบายดังกล่าวก็ถูกแทนที่ด้วยนโยบายลูกสองคน จนมาถึงนโยบายเพิ่มลูกขึ้นไปอีกในปีนี้
จากสถิติของสำนักสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า อัตราการเกิดของจีนตกลงมาอยู่ที่ 15.23 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 1.395 พันล้านคน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1961 มีการคาดการณ์ว่า จำนวนประชากรชาวจีนจะเพิ่มสูงสุดถึง 1.442 พันล้านคน ภายในปี 2029 ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
