เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนได้ออกคำสั่งให้บริษัททัวร์หยุดขายกรุ๊ปทัวร์ ห้องพักโรงแรม และตั๋วเครื่องบิน
บริษัท OTA รายใหญ่ของจีนยอมให้ยกเลิกแผนการเดินทางได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และคืนเงินเต็มจำนวนระหว่างวันที่ 24 มกราคมถึง 8 กุมภาพันธ์ Trip.com และเชนโรงแรมใหญ่อีกหลายเครือ (เช่น Marriott, IHG, Accor) ต่างก็เปิดให้ลูกค้ายกเลิกการจองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายระหว่างวันที่ 24 มกราคมถึง 8 กุมภาพันธ์ และสายการบินต่าง ๆ (เช่น Air China, AirAsia) ก็ยอมคืนค่าตั๋วเต็มจำนวนให้กับผู้โดยสารไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์
เอกสิทธิ์ คุณาดิเรกวงศ์ นักวิเคราะห์หุ้น การพาณิชย์ การท่องเที่ยวและการขนส่ง (อากาศ) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่าการห้ามจัดกรุ๊ปทัวร์จะส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยในระยะสั้น เนื่องจากจีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดนี้เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
คาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกไปต่างประเทศลดลงอย่างมากไปจนถึงเดือนมีนาคมเป็นอย่างน้อย หรือในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจจะลากยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคมเลยก็ได้
ทั้งนี้ก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็น 28% (10% ของนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์, 18% ของนักท่องเที่ยวแบบ FIT หรือกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง) ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย การห้ามจัดกรุ๊ปทัวร์จีนและการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง และส่งผลกระทบกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและภาวะตลาดของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวด้วย
ขณะเดียวกันการห้ามจัดกรุ๊ปทัวร์จีนอาจจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพลิกจากเติบโต 7.7% มาติดลบที่ 1.3% ในปี 2020 โดยใช้สมมติฐานในกรณีฐานว่าไม่มีนักท่องเที่ยวประเภทกรุ๊ปทัวร์จากจีนเลย และจำนวนนักท่องเที่ยวประเภท FIT จากจีนลดลงถึง 70% เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน
โดยกลุ่มหุ้น ERW – บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ AOT – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จะกระทบหนักที่สุด เพราะสัดส่วนรายได้กว่า 90% มาจากการดำเนินกิจการในประเทศไทย
รองลงมาคือ CENTEL – บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสัดส่วน 35% และ MINT – บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งสัดส่วนต่ำเพียงแค่ 8% เอกสิทธิ์ยังคงมองทางลบกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง เนื่องจากจีนระงับการจัดกรุ๊ปทัวร์ เงินบาทแข็ง และจำนวนห้องพักในตลาดเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบปีต่อปี
จากการตรวจสอบของ THE STANDARD เมื่อเวลา 12.25 น. พบว่าราคาหุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างปรับตัวลดลงถ้วนหน้า โดยกลุ่มสนามบิน AOT ลดลง 4.55% กลุ่มโรงแรม ERW ลดลง 7.66%, CENTEL ลดลง 5.86%, MINT ลดลง 7.46% กลุ่มสายการบิน AAV ลดลง 7.25%, NOK ลดลง 0.50% THAI ลดลง 4.88% กลุ่มโรงหนัง MAJOR ลดลง 7.36% ร้านอาหาร ZEN ลดลง 5.65% และ สปา SPA ลดลง 8.63%
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์