ผลกำไร 11 เดือนแรกของปีของกลุ่มบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนปรับตัวลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 7.7 ล้านล้านหยวน โดยสาเหตุหลักเกิดจากการบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดของรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างมองแนวโน้มผลกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนในระยะข้างหน้าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังล่าสุดทางการได้ประกาศแผนเปิดประเทศในต้นปีหน้า
Zhu Hong นักวิเคราะห์อาวุโสของ NBS ระบุว่า การกลับมาแพร่ระบาดของโควิดในเดือนพฤศจิกายนสร้างอุปสรรคให้กับกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริษัทที่มีโรงงานตั้งอยู่ในเมืองที่มีมาตรการควบคุมเข้มงวด เช่น กว่างโจว และเจิ้งโจว ขณะเดียวกัน กำไรของหลายบริษัทยังถูกกดดันด้วยปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการชะลอตัวของการส่งออกด้วย
NBS คาดการณ์ว่า ผลกำไรในระยะสั้นของบริษัทอุตสาหกรรมจีนจะยังปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะการยกเลิกมาตรการกักตัวของจีนจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในระยะยาวผลกำไรจะได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามการเปิดเมือง
“ผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมจะยังปรับลดลงในเดือนธันวาคม เนื่องจากหลายเมืองจะเผชิญกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุม แต่เราอาจเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นนับจากเดือนมกราคมในปีหน้าเป็นต้นไป และจะยิ่งดีมากขึ้นหากรัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือที่พุ่งเป้าไปที่ภาคธุรกิจเอกชน” Hao Zhou หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ GTJAI กล่าว
ขณะที่บทวิเคราะห์ของ J.P. Morgan ระบุว่า การเปิดเมืองของจีนที่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ จะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้ปรับเพิ่มประมาณการ GDP จีนในปี 2023 เพิ่มจาก 4% เป็น 4.3% แม้ว่าจะปรับลดการเติบโตในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ลงจาก 2.7% เหลือ 2.2% ก็ตาม
ข้อมูลของ Reuters ระบุว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนที่ผ่านมา กำไรของบริษัทเอกชนจีนหดตัวลง 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยกำไรของ 21 จาก 41 ภาคอุตสาหกรรมหลักมีการปรับตัวลดลง โดยอุตสาหกรรมถลุงเหล็กและการอัดขึ้นรูปมีผลกำไรลดลงมากที่สุดถึง 94.5%
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี เศรษฐกิจจีนมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ต่อไตรมาส และคาดว่า GDP ในไตรมาสที่ 4 ก็จะยังเติบโตในระดับดังกล่าว ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะออกมาแย่ที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เกิดเหตุประท้วงรุนแรง! ในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในจีน สะท้อนความไม่พอใจ Zero-COVID จับตากระทบการผลิต iPhone
- ‘UN’ เผยประชากรโลกแตะ 8 พันล้านคนแล้ว ‘อินเดีย’ จ่อแซงจีนปีหน้า หลังอายุขัยเฉลี่ยมนุษย์สูงขึ้น
- นักลงทุนผวา! จีนสั่งล็อกดาวน์ระลอกใหม่ ฉุดหุ้น-น้ำมันทั่วเอเชียร่วงระนาว
อ้างอิง: