×

Street Bite: กินน้ำเงี้ยว เที่ยวเชียงใหม่ รวมร้านเล็กรสดีที่ไม่ควรพลาด

31.05.2019
  • LOADING...
ขนมจีนน้ำเงี้ยว

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • ลักษณะน้ำเงี้ยวของคนในเมือง น้ำแกงจะออกใส มีรสชาตินุ่มนวล กินสบาย ด้วยความที่คนอาศัยอยู่ในเมืองมีทางเลือกมาก จึงไม่จำเป็นต้องใส่ดอกงิ้วเพื่อเพิ่มเนื้อหนังมังสาให้กับน้ำเงี้ยว เพราะถือว่า ‘เติ้กต๊อง’ หมายถึงใส่ไปก็ไม่ได้เพิ่มรสชาติอะไร แถมยังเกะกะท้อง
  • กลุ่มแม่บ้านชาวสันทรายล้วนมีฝีมือเอกอุกว่าใครในพื้นปฐพี น้ำเงี้ยวของแม่ครัวสันทรายเข้มข้น และส่วนใหญ่เป็นแม่ครัวมือเติบ น้ำเงี้ยวที่นี่จึงใส่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะถั่วเน่าแข็บหรือเต้าเจี้ยว ดอกงิ้ว กระดูก หมูสับ จัดไปแบบเต็มสตรีม ถ้าน้ำไม่นัวพอ บางที่ยังมีการใส่เลือดหมูลงไปเพื่อความเข้มข้นด้วย

เคยโดนข้อหาเรื่องเป็น ‘คนเมืองปลอม’ เพราะบอกไม่ได้ว่าขนมจีนน้ำเงี้ยวในเชียงใหม่ร้านไหนอร่อยที่สุด ด้วยความที่กินขนมจีนน้ำเงี้ยวจนผมสองสีแล้วก็ไม่ค่อยไปกินร้านที่เขาฮิตๆ กัน คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่กินน้ำเงี้ยวที่ตลาดตอนเช้า ถ้าเป็นมื้อเที่ยงก็กินร้านป้าข้างๆ บ้านที่เปิดเป็นเพิงขาย ซึ่งสมัยก่อนหนึ่งชุมชนมักจะมีคนขายน้ำเงี้ยวมากกว่าหนึ่งร้าน ก็เลือกร้านที่ชอบ พอเที่ยวบ่อยๆ ก็ได้กินน้ำเงี้ยวเกือบทุกจังหวัด ภาคเหนือแต่ละที่มีจุดเด่นต่างกัน จึงบอกได้ยากว่าที่ไหนอร่อย ดังนั้นจึงต้องรับข้อหา ‘คนเชียงใหม่ปลอม’ ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวป้าแดง ตลาดสันทรายหลวง ขายตั้งแต่ 6 โมงเช้า ใครห่อกลับ ป้าจะเอาใบตองห่อเส้น กลัดด้วยไม้ ห่อให้พร้อมน้ำ

 

สำหรับคนเชียงใหม่ยุคก่อนๆ มาตรวัดความอร่อยของขนมจีนน้ำเงี้ยวอยู่ที่ความเคยชินเสียมากกว่า อยู่ใกล้ที่ไหนก็บอกที่นั่นอร่อย เพราะกินตั้งแต่เด็ก ซึ่งถ้าจะกล่าวกันตามจริงแล้ว พอกินหลายๆ ที่ ส่วนตัวคิดว่าขนมจีนของคนไทใหญ่หรือชาวเงี้ยวนี้อยู่กับคนเชียงใหม่มานานจนสูตรนั้นแพร่หลาย ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าอยู่แถวไหนกินรสอย่างไร ยิ่งพอมีคนเชียงรายมาเปิดร้านน้ำเงี้ยวที่เชียงใหม่มากขึ้น คนเชียงใหม่เดี๋ยวนี้ก็มีแนวโน้มที่จะชอบขนมจีนน้ำเงี้ยวเชียงรายมากขึ้น จึงทำให้น้ำเงี้ยวของเชียงใหม่มีความหลากหลายมากขึ้น

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวเชียงรายที่ช้างคลาน มากด้วยรส แน่นด้วยเครื่อง และที่ขาดไม่ได้คือหมูก้อนและดอกงิ้ว

 

‘คนเมืองปลอม’ เลยคิดจะชวนคุณไปกินน้ำเงี้ยว เที่ยวชุมชนเล็กๆ ของเชียงใหม่ บางร้านอาจจะไม่ดัง (เพราะร้านดังๆ คนคงพูดถึงไปมากแล้ว) ประเภทร้านที่แบ่งไว้นั้นแบ่งด้วยตัวเองโดยใช้สถานที่เป็นเกณฑ์ ไม่มีทฤษฎีใดๆ

 

น้ำเงี้ยวคนเวียง
คนเวียงที่ว่านี้คือคนที่อาศัยอยู่ในตัวเมือง ลักษณะน้ำเงี้ยวของคนในเมือง น้ำแกงจะออกใส มีรสชาตินุ่มนวล กินสบาย ด้วยความที่คนอาศัยอยู่ในเมืองมีทางเลือกมาก จึงไม่จำเป็นต้องใส่ดอกงิ้วเพื่อเพิ่มเนื้อหนังมังสาให้กับน้ำเงี้ยว เพราะถือว่า ‘เติ้กต๊อง’ หมายถึงใส่ไปก็ไม่ได้เพิ่มรสชาติอะไร แถมยังเกะกะท้อง น้ำเงี้ยวในตัวเมืองเป็นน้ำเงี้ยวของคนเมืองที่ใส่เต้าเจี้ยวและใส่ถั่วเน่าแข็บย่างไฟตำใส่ในน้ำพริกแบบคนไทใหญ่

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

แม่ศรีวรรณกำลังห่อขนมจีนให้กับลูกค้าที่แวะเวียนมาซื้อเป็นประจำ

 

ร้านน้ำเงี้ยว 100 ปี ท่าแพ

เริ่มจากย่านการค้าเก่าแก่ของเชียงใหม่คือย่านท่าแพ ในยุคแรกของท่าแพมีชาวบ้านที่ย้ายมาจากเชียงแสนอาศัยอยู่ ต่อมามีกลุ่มชาวไทใหญ่มาทำการค้าซื้อตึกต่อจากผู้อาศัยเดิม เรียกว่าชาวไทใหญ่เป็นผู้ครอบครองถิ่นนี้ก่อนชาวจีนเสียด้วยซ้ำ หากเดินเที่ยวชมวัดและตึกโคโลเนียลแถวนี้แล้วก็ขอแนะนำให้แวะเข้าไปที่ซอยท่าแพ 2 ที่นี่มีร้านขนมจีนที่ขายมาแล้วร้อยกว่าปี เป็นห้องแถวเล็กๆ ซึ่งพ่ออุ๊ยจองหล้าและแม่อุ๊ยเป็งส่งผ่านสูตรน้ำเงี้ยวของชาวไทใหญ่มาให้กับลูกหลาน ปัจจุบันเป็นคุณยายสองคนช่วยกันทำขายคือ แม่ศรีวรรณ และแม่สายหยุด สังเกตว่าคงมีคนมาสัมภาษณ์แกบ่อย จึงทำ Family Tree ติดบนฝาผนังข้างรายการอาหารเสียเลย จะได้ไม่เสียเวลา

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

 

ความโดดเด่นของน้ำเงี้ยวที่นี่คือใช้เนื้อหมูสันคอเท่านั้น เริ่มจากรวนเนื้อหมูที่หั่นเป็นชิ้นก่อน ผัดน้ำพริก แล้วเอาหมูลงไปผัดอีกทีค่อยใส่น้ำ ส่วนเครื่องเคราอื่นๆ ต้มให้ ‘หล้ม’ แปลได้ว่าเปื่อยและเข้าเนื้อ ด้วยเชื้อเพลิงจากถ่าน น้ำเงี้ยวบ้านนี้จึงไม่มีความมันมาก รสชาติกลมกล่อมพอดีๆ ในราคาเพียงจานละ 25 บาท ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น. แต่ส่วนใหญ่ก็จะหมดก่อนบ่าย 3 ทุกครั้ง ของเด็ดอีกอย่างคือข้าวเงี้ยว

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวที่รสจัดจ้านกว่าใครในบรรดาน้ำเงี้ยวเชียงใหม่

 

น้ำเงี้ยวลุงพงษ์

ขยับเข้ามาในตัวเมืองเก่าท่ามกลางวัดวาอารามที่ห้อมล้อม ฝั่งหนึ่งเป็นวัดเจดีย์หลวง และอยู่ไม่ห่างจากวัดพระเจ้าเม็งราย ร้านนี้อยู่ตรงกลางย่านเก่าแก่ที่เรียกว่าบ้านวัดกิตติ ตัววัดกิตติปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ คนย่านนั้นเดิมเป็นกลุ่มคนที่สืบเชื้อสายมาจากพระยาจ่าบ้าน ถ้าหากได้นั่งคุยกับลุงพงษ์ ผู้ชายมากอารมณ์ขันเจ้าของร้านน้ำเงี้ยวแล้วจะกินอร่อยขึ้น เพราะแกจะขนเอา ‘เจี้ย’ หรือเรื่องเล่าต่างๆ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่แกรู้เกี่ยวกับพระยาจ่าบ้าน หรือพระยาประเทศราชนครเชียงใหม่สมัยกรุงธนบุรี (ช่วงปี 2317-2319) มาเล่าให้ฟัง ลุงพงษ์เคยเล่าให้ฟังว่าแต่เดิมลุงมีบ้านไม้อยู่ด้านหลังอายุร้อยกว่าปี สร้างจากไม้ที่ได้มาตั้งแต่สมัยพญาจ่าบ้าน เป็นสมบัติของตระกูลสืบต่อกันมา ภายหลังมีการตอกเสาเข็มสร้างตึกใหญ่ ทำให้บ้านกระเทือน จึงต้องถอดบ้านออกแล้วรื้อประกอบใหม่ แต่ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว เสียดายเหมือนกัน

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

 

ถ้ายังนั่งชวนแกคุยไปเรื่อยๆ บทสนทนาจะออกรสออกชาติมากขึ้น เราจะได้รู้ถึงความเป็นไปของคณะสงฆ์ของวัดที่อยู่แวดล้อมชุมชนนี้ทั้งหมด ลามไปถึงการเมืองการปกครองด้วย ส่วนเรื่องน้ำเงี้ยวของแกนั้น ร้านลุงพงษ์ใช้เครื่องปรุงคล้ายกับร้านที่ท่าแพและใช้เตาถ่านเหมือนกัน ความต่างคือใช้เต้าเจี้ยวลงไปผัดพร้อมน้ำพริกและหมูแทนถั่วเน่าแข็บ รสของร้านนี้จะมีความนัวจากเต้าเจี้ยวที่ใส่ลงไป ราคาน้ำเงี้ยวของลุงพงษ์อยู่ที่จานละ 30 บาท ฟังลุงไปเพลินๆ ก็อย่าลืมสั่งน้ำแข็งไสรวมมิตรกินลดความเผ็ดร้อนของบทสนทนาด้วย ร้านเปิดเวลา 9.30-14.00 น. อยู่ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวที่ครองใจมนุษย์เงินเดือนแถบถนนราชมรรคา

น้ำเงี้ยวแม่บุปผา ชุมชนบ้านวัดกาละก้อด

ออกจากน้ำเงี้ยวลุงพงษ์มาแล้วเดินมาทางถนนราชมรรคา เจอสามแยกที่มีร้านเฮือนเพ็ญ เลี้ยวขวาเดินมาเรื่อยๆ จะเจอซอยเข้าวัดพระเจ้าเม็งราย ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของวัดกาละก้อด เป็นวัดที่ประดิษฐานพระเจ้าค่าคิง พระประจำรัชกาลพญามังราย ที่ชื่อนี้เพราะตอนที่หามพระพุทธรูปเข้ามา คานไม้ที่สอดหามก็ลู่และงอลงหรือ ‘ก้อด’ จึงเป็นที่มาของชื่อวัด ตรงข้ามปากทางเข้าวัดนี้จะมีร้านขนมจีนเล็กๆ ชื่อร้านแม่บุปผา แม่อุ๊ย ญาติแม่บุปผาเล่าให้ฟังว่าที่บ้านแกเป็นที่ของเจ้านายฝ่ายเหนือยกให้อยู่กินอาศัย ส่วนเจ้านายก็ย้ายไปอยู่ลำพูน ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เพราะบริเวณนี้เป็นที่อยู่ของเหล่าข้าราชบริพารที่อาศัยอยู่ใกล้กับคุ้มเจ้านาย

 

แม่บุปผามีชื่อที่รู้จักกันดี (ลับหลัง) ว่า ‘ป้าเหยิม’ กล่าวคือแม้โลกจะเคลื่อนไหวเร็วเพียงใด ป้าก็ยังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเท่าเดิม ร้านนี้เป็นที่พึ่งของมนุษย์เงินเดือนในละแวกนั้น ดังนั้นถ้าไปตอนเที่ยงจะต้องใช้ความอดทนสูงมากหากได้คิวหลังๆ น้ำเงี้ยวจะรสอ่อนกว่าของลุงพงษ์ แต่สูตรใกล้เคียงกัน เพียงแต่ใช้หมูสับแทนหมูสันคอ ราคา 25 บาท หากไม่อิ่มให้ลองกินข้าวเงี้ยวด้วย อิ่มแน่นอน เปิดเวลา 7.30-15.00 น.

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวของแม่บ้านชาวเจดีย์ แม่ครัวต้มกระดูกเล้งไว้หม้อหนึ่งแล้วผัดหมูสับกับเลือดอีกหนึ่งกระทะใหญ่ ทั้งหมดนี้กินกัน 5 คน (บ้านผู้เขียนเอง)

 

น้ำเงี้ยวรอบนอก

ชาวบ้านที่อยู่นอกเมืองเชียงใหม่ส่วนใหญ่กินอาหารรสจัดและไม่ค่อยเคร่งครัดธรรมเนียมอะไรนัก เมื่อก่อนนอกเมืองส่วนใหญ่จะทำน้ำเงี้ยวควายหรือน้ำเงี้ยววัวมากกว่า หลังๆ สัตว์ใหญ่ไม่เป็นที่นิยม หมูหาง่ายกว่า เลยทำกันแต่น้ำเงี้ยวหมู ด้วยความที่ผู้เขียนอาศัยอยู่สันทราย เกิดและเติบโตที่นี่ก่อนจะย้ายเข้าเมืองเมื่อเริ่มเข้าวัยรุ่น ตั้งแต่เด็กจนโตก็คิดเข้าข้างแม่ครัวบ้านตัวเองมาตลอดว่ากลุ่มแม่บ้านชาวสันทรายล้วนมีฝีมือเอกอุกว่าใครในพื้นปฐพี น้ำเงี้ยวของแม่ครัวสันทรายเข้มข้น และส่วนใหญ่เป็นแม่ครัวมือเติบ น้ำเงี้ยวที่นี่จึงใส่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะถั่วเน่าแข็บหรือเต้าเจี้ยว ดอกงิ้ว กระดูก หมูสับ จัดไปแบบเต็มสตรีม ถ้าน้ำไม่นัวพอ บางที่ยังมีการใส่เลือดหมูลงไปเพื่อความเข้มข้นด้วย ถือว่าเป็นแม่ครัวมือหนักโดยแท้

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวของกาดสันคะยอมออนไลน์ ฝีมือแม่มอย แม่ครัวเอกแห่งบ้านสันคะยอม

 

สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอสันทรายจัดได้ว่าน้อย แต่สันทรายเป็นเมืองแห่งอาหารการกิน สายกินต้องชื่นชอบ เพราะมีร้านอาหารอร่อยๆ นานาชาติตั้งอยู่ที่นี่มากมายหลายร้าน เนื่องจากมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มาก มีความเป็นนานาชาติที่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของชนบท มีโรงงานทำชีสทั้งฝรั่งเศสและอิตาเลียน อยู่ไม่ห่างจากร้านลาบ จิ๊นตุ๊บ และปิ้งย่าง มีร้านน้ำเงี้ยวซุกซ่อนอยู่ทั่วไป

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

 

น้ำเงี้ยวเฮือนยายอินทร์

ร้านน้ำเงี้ยวเล็กๆ ของแม่บ้านสันทรายมูลร่างสันทัด อายุ 77 ปี สิ่งที่เธอทำตลอดชีวิตมีอย่างเดียวคือขายขนมจีน ตั้งแต่เริ่มทำงานได้ ยายอินทร์ก็ขายอาหารกับแม่ที่กาดสามแยก พอแม่เลิกขาย คุณยายเลยมาเปิดร้านเอง แม้ว่าายอินทร์อายุอานามมากแล้วก็ยังคงแข็งแรงอยู่มากมาย ขนมจีนของยายรสชาติดีแบบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม น้ำนัวๆ ร้านเปิดเวลา 8.00-16.00 น. ปิดเสาร์-อาทิตย์ ถ้ามาจากกาดสามแยก ขับมาทางสันทรายเก่า ร้านอยู่ขวามือก่อนถึงวัดสันทรายมูล

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวที่ใช้ทั้งหมูสับและกระดูกหมู น้ำพริกของป้าแดงเด็ดดวง เข้มข้น อร่อย

 

น้ำเงี้ยวป้าแดง

เป็นน้ำเงี้ยวแบบที่ผู้เขียนกินมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นรสชาติที่เข้ม เติมมะนาวและพริกเพื่อเพิ่มความแซ่บได้ตามสะดวก ขนมจีนป้าแดงไม่อร่อยหวือหวา แต่กลับทำให้เรากินไป 3-4 จานได้ง่ายๆ เหมือนโดนสาปให้กินไม่หยุด รู้ตัวอีกทีก็เดินไม่ได้แล้ว เพราะอิ่มเกินไป เป็นร้านเปิดในบ้าน ต้อนรับลูกค้าด้วยม้าหินอ่อนเพียง 2 ชุดถ้วน นั่งกินไปก็ฟังชาวบ้านคุยเรื่องของชาวบ้านคนอื่นๆ ไป เป็นเหมือนศูนย์ข่าวของชาวบ้านสันคะยอม มาที่เดียวสามารถติดตามชีวิตของคนได้ทั้งชุมชน แม้ไม่รู้จักคนที่พูดถึงเลยก็ตาม ร้านป้าแดงอยู่ใกล้วัดสันคะยอม เป็นบ้านของแกเอง ปิดทุกวันเสาร์ ขายตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น.

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

 

น้ำเงี้ยวยายหล้าตาชาติ กาดนัดสันคะยอม

น้ำเงี้ยวรสเด็ดที่หากินได้แค่วันอาทิตย์ในตลาดนัดเท่านั้น ร้านเป็นเพิงหมาแหงนให้ซื้อกลับ ถ้าจะกินที่ร้านก็มีที่นั่งให้ 2 ที่ ได้อารมณ์กินอาหารริมทางมากๆ ร้านนี้จะต้มกระดูกเล้งทิ้งไว้ก่อน แล้วผัดน้ำพริกกับหมูสับ ใส่เครื่องเคราต่างๆ ครบๆ แน่นๆ เป็นบ้านที่ทำอาหารมือหนักทั้งครอบครัว ขายขนมจีนจัดเต็มในราคา 25 บาท เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดและชาวบ้านมาซื้อ ดังนั้นจึงตั้งราคาไว้ไม่สูงมาก ร้านอยู่ในตลาดนัดวันอาทิตย์ หลังโลตัสตลาดแม่ย่อยสันทราย เริ่มขายตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะหมด

 

มีเชียงรายในเชียงใหม่

ชาวเชียงรายย้ายถิ่นก็ได้นำรสอร่อยของเชียงรายติดตัวมาด้วย จนคนเชียงใหม่บางคนแทบไม่กลับไปกินน้ำเงี้ยวแบบเชียงใหม่อีกเลย น้ำเงี้ยวเชียงรายไม่ใส่เต้าเจี้ยว แต่ใส่ดอกงิ้วและถั่วเน่าแข็บเท่านั้น เอกลักษณ์ของน้ำเงี้ยวเชียงรายคือหมูสับก้อน ส่วนใหญ่ร้านน้ำเงี้ยวเชียงรายจะใช้หมูสับ 2 ประเภท ได้แก่ ส่วนที่เป็นเนื้อเกรดเอ คือหมูสับส่วนที่เห็นเป็นก้อน และหมูสับปนมันสำหรับผัดในน้ำ รสชาติดุดัน

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวเชียงรายเผ็ดร้อนสุดใจของเสือยิ้มยาก ป้าแอ๋ว น้ำเงี้ยวเวียงเก่า

 

ป้าแอ๋ว น้ำเงี้ยวเวียงเก่า

เมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก เวลาเดินทางไปเชียงรายจะเห็นบ้านหลายหลังตั้งหม้อไว้หน้าบ้าน ผู้เขียนจะบอกพ่อว่า จอดๆ จะกินข้าวหนมเส้นน้ำโง (น้ำวัว) เป็นสัญลักษณ์ว่าถึงเชียงรายแล้วเราต้องกินน้ำเงี้ยว ป้าแอ๋วคือความดีงามของน้ำเงี้ยวเชียงรายในเชียงใหม่ เพราะน้ำเงี้ยวเนื้อของที่นี่อร่อยจนเพ้อ ไม่ต้องเดินทางไปเชียงรายก็สามารถหากินได้ใกล้บ้าน รสชาติดุเด็ดเผ็ดมัน น้ำเงี้ยวเนื้อของแกไม่มีเครื่องเครามากมายมากวนใจ เนื้อๆ เน้นๆ ของจริง ส่วนน้ำเงี้ยวหมู ถ้าใครเคยไปกินร้านป้าสุข สันโค้ง ที่เชียงรายก็จะเห็นว่ารสชาติไม่หนีกันมาก ร้านน้ำเงี้ยวเวียงเก่าอยู่ในโครงการ Chiang Mai Business Park เยื้องๆ กับคุ้มพญา เปิดเวลา 10.00-17.00 น.

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวหมูที่มีกลิ่นหอมของเครื่องแกงโดดเด่น รสชาติทุกองค์ประกอบแสดงตัวออกมาชัดเจนอย่างสมัครสมาน

 

น้ำเงี้ยวเชียงรายช้างคลาน

แถบช้างคลานของเชียงใหม่เต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี อาหารจีน และอาหารนานาชาติอีกมากมายที่เราคิดไม่ถึง แต่บนถนนสายเดียวกันมีร้านน้ำเงี้ยวที่เป็นที่พึ่งทางใจของคนท้องถิ่นที่ถวิลหาน้ำเงี้ยวตลอดเวลา ร้านน้ำเงี้ยวเชียงรายช้างคลานเปิดที่นี่เป็นสาขาที่ 2 อันที่จริงแล้วสาขาแรกอยู่ที่สันกำแพง ชอบที่ร้านสะอาดสะอ้าน ถั่วงอก ผักดอง ของแกล้มสะอาด และที่สำคัญคือแต่ละถ้วยจัดใหญ่จัดเต็ม แกรนด์มากๆ ในราคา 40 บาท ร้านนี้เข้มข้นมาก แต่ไม่เผ็ดเท่ายายแอ๋ว ร้านอยู่บนถนนช้างคลาน อยู่เลยทางเข้าหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์มาทางโรงแรมรติลานนา ร้านอยู่ซ้ายมือเป็นตึกแถว

 

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยวลูกครึ่ง เผ็ดแต่ไม่เผ็ดจัด กลมกล่อม นุ่มนวล

 

น้ำเงี้ยวยายน้อย

น้ำเงี้ยวที่รวมจุดเด่นของน้ำเงี้ยวเชียงรายและน้ำเงี้ยวเชียงใหม่เข้าด้วยกัน มีความเผ็ดแต่ไม่เผ็ดโดด ความเผ็ดร้อนไม่ได้ค้างกับลิ้นของเรานาน ผ่านมาแล้วหายไป ในความดุดันก็มีรสนุ่มนวลแบบน้ำเงี้ยวเชียงใหม่ ร้านนี้ใส่หมูสับและซี่โครงหมู เครื่องแกงแน่น เรียกว่าเพียบพร้อมดีงามทุกองค์ประกอบในถ้วย รวมไปถึงเส้นด้วย เส้นที่นี่เป็นเส้นที่เขาสั่งทำพิเศษ เส้นเล็ก เหนียว และนุ่ม แต่เดิมยายน้อยขายอยู่ในบ้านพักข้าราชการในกองบิน 41 ต่อมาลูกสาวมาทำงานและเป็นแฟนกับร้านกาแฟ Trailer จึงเอาน้ำเงี้ยวมาขายในร้านกาแฟด้วย ดังนั้นทุกสาขาของร้านกาแฟ Trailer จึงมีน้ำเงี้ยวยายน้อยอยู่ทุกสาขา ได้แก่ สาขาสุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์ และสาขา Business Park หลังบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า

 

น้ำเงี้ยวในเชียงใหม่ยังมีอีกมากมายหลายร้าน ร้านที่เป็นเพื่อนคนกลางคืนอย่างขนมจีนกาดสันป่าข่อย ร้านที่เป็นที่รู้จักอย่างร้านเฮือนเพ็ญ ร้านขนมจีนกาดหลวงที่ขายตลอดทั้งวัน เพราะขนมจีนน้ำเงี้ยวผูกพันกับชีวิตประจำวันของคนเมืองมากๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากมีเพื่อนชาวเชียงใหม่คนหนึ่งตื่นมาแล้วจะชวนคุณกินน้ำเงี้ยวแต่เช้า เที่ยงก็กินได้ หลังไปเที่ยวก็กินได้อีก และกินได้ทุกวันเสียด้วย

 

จากรายชื่อร้านที่ให้มาทั้งหมดนี้ หวังว่าจะลบล้างความเป็น ‘คนเชียงใหม่ปลอม’ ไปได้… ขอได้รับความขอบคุณมา ณ ที่นี้

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising