สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ลงมติรับรองร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) เพื่อแสดงการสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกงที่เรียกร้องสิทธิพลเรือนขั้นพื้นฐาน ขณะที่รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐฯ ว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศ และเตือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจถูกบ่อนทำลาย หากสหรัฐฯ บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
กฎหมายดังกล่าวซึ่งผู้ชุมนุมในฮ่องกงเรียกร้องมาตลอด จะมอบอำนาจแก่รัฐบาลสหรัฐฯ ในการออกมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ฮ่องกงและรัฐบาลจีนที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของฮ่องกง ซึ่งรวมถึงการอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นในสหรัฐฯ หรือปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐฯ
นอกจากนี้กฎหมายใหม่ยังกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศต้องพิจารณา และจัดทำรายงานประเมินสถานการณ์การเคารพสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติตามหลักนิติธรรมของทางการฮ่องกงเป็นประจำทุกปี เพื่อดูว่าฮ่องกงจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าและเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยนโยบายสหรัฐฯ และฮ่องกง ฉบับปี 1992 ต่อไปหรือไม่
นอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว สภาล่างสหรัฐฯ ยังผ่านร่างกฎหมาย Protect Hong Kong Act ซึ่งเป็นอีกมาตรการในการปกป้องฮ่องกง โดยมีบทบัญญัติห้ามการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมฝูงชนให้กับรัฐบาลฮ่องกง
ส่วนมาตรการที่ 3 เป็นข้อมติที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยสหรัฐฯ ยอมรับความสัมพันธ์กับฮ่องกง และประณามจีนที่แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง พร้อมแสดงท่าทีสนับสนุนสิทธิของชาวฮ่องกงในการชุมนุมประท้วง
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ร่างกฎหมายหลายฉบับที่ผลักดันโดยสภาล่างเป็นเครื่องย้ำเตือนที่สำคัญว่า สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนหลักสิทธิมนุษยชน แม้ในยามที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของจีนจะทวีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกแถลงการณ์ประท้วงการผ่านร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และเรียกร้องให้ ส.ส. ยุติการแทรกแซงกิจการในฮ่องกง นอกจากนี้ยังวิจารณ์ต่างชาติว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: