จีนกล่าวหาว่าสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณที่ผิดและเป็นอันตรายให้กับไต้หวัน ในระหว่างการพบกันของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กับ หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก เมื่อวันศุกร์ (23 กันยายน)
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองหารือกันอย่างตรงไปตรงมา โดยมีไต้หวันเป็นประเด็นหลักของการพูดคุยนาน 90 นาที
“สำหรับในส่วนของเรา ท่านรัฐมนตรีชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพเหนือช่องแคบไต้หวันมีความสำคัญอย่างยิ่ง ตามนโยบายจีนเดียวที่เรายึดถือมาช้านาน และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง” เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงคนหนึ่งของสหรัฐฯ กล่าว
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยในแถลงการณ์หลังการพบปะหารือดังกล่าว ระบุว่า สหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณที่ผิดและเป็นอันตรายให้กับไต้หวัน และยิ่งการดำเนินการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวันรุนแรงมากขึ้นเท่าไร โอกาสที่จะตกลงแก้ปัญหากันอย่างสันติก็จะยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น
“ปัญหาของไต้หวันเป็นเรื่องภายในของจีน และสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์แทรกแซงว่าจะใช้วิธีการใดในการแก้ไข” กระทรวงต่างประเทศจีนอ้างคำกล่าวของหวัง
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนในประเด็นไต้หวันเพิ่มสูงขึ้น หลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาะที่จีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตน ส่งผลให้รัฐบาลกรุงปักกิ่งไม่พอใจอย่างมาก และตอบโต้ด้วยการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดรอบเกาะไต้หวัน ก่อนที่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศจะร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากผู้นำสหรัฐฯ ย้ำจุดยืนพร้อมปกป้องไต้หวันหากจีนใช้กำลังรุกราน ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ซึ่งคำกล่าวนี้ถูกมองว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุนกลุ่มที่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราชในไต้หวัน
แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ในสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา กล่าวว่า การพบกันของบลิงเคนและหวังนั้นมีความสำคัญ และอาจจะนำไปสู่การพบกันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่อินโดนีเซีย ในเดือนพฤศจิกายน
“การตัดสินใจของหวังและบลิงเคนที่จะพบกันในนิวยอร์กไม่ได้รับประกันว่าการประชุมสุดยอดเดือนพฤศจิกายนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น หรือจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาไม่สามารถพบกันได้ แสดงว่ามีโอกาสน้อยสำหรับการประชุมสุดยอดในเดือนพฤศจิกายน” รัสเซลกล่าว
ภาพ: David Dee Delgado / Pool / AFP
อ้างอิง: