สำนักข่าว AFP เปิดเผยวันนี้ (19 มกราคม) ว่า พบผู้ป่วย ‘ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่’ ที่กำลังระบาดอย่างรุนแรงในประเทศจีนเพิ่มอีก 17 รายแล้ว ในจำนวนนี้ผู้ป่วย 3 ราย อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งทางการจีนวิตกว่า เชื้อไวรัสปริศนาดังกล่าวอาจจะแพร่ระบาดได้เร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่จีนที่พลเมืองไม่ต่ำกว่าหลายร้อยล้านคนจะเดินทางสัญจรทั่วประเทศ
ผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ทั้ง 17 ราย ที่มีอายุระหว่าง 30-79 ปี ล้วนแล้วแต่อาศัยในใจกลางเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทั้งสิ้น โดยเชื่อกันว่า อู่ฮั่นเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการแพร่ระบาดโรคไวรัสปริศนาดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของโรคนี้มากกว่า 62 รายแล้ว โดยมี 8 ราย ที่อยู่ในขั้นวิกฤต อีก 19 ราย ได้รับการรักษาและส่งตัวกลับไปที่บ้าน
ขณะที่ผู้ป่วยเคราะห์ร้ายอีก 2 ราย ที่ได้รับเชื้อจากการแพร่ระบาดของไวรัสปริศนาได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งตามรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่อายุ 69 ปี ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากสาเหตุวัณโรคปอด (Pulmonary tuberculosis) และเชื้อไวรัสได้ทำลายระบบภายในร่างกาย
สำหรับมาตรการการคัดกรองผู้ป่วยนั้น ทางการจีนระบุว่า ได้เริ่มกระบวนการยกระดับความเข้มงวดของการคัดกรองผู้ป่วยโรค เพื่อให้สามารถหาระบุตัวตนผู้ป่วยได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรดตามสถานที่ต่างๆ ที่มีผู้คนสัญจรพลุกพล่าน ทั้งสนามบินและสถานีรถไฟ
สาเหตุที่หลายฝ่ายกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่นี้ เป็นผลมาจากการที่ไวรัสดังกล่าวมีลักษณะความรุนแรงของโรคและการแพร่ระบาดคล้ายคลึงกับโรค SARS (Severe Acute Respiratory Syndrome) หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงที่ไม่ทราบสาเหตุที่เคยระบาดในจีนและฮ่องกงเมื่อปี 2002-2003 และคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 650 ราย ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานวิธีการรักษาที่ได้ผล
ทั้งนี้ ในประเทศไทยและญี่ปุ่นมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อจำนวนทั้งสิ้น 3 รายแล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: