เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Global Times ของจีน รายงานแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมจีน ซึ่งระบุว่าการฝึกซ้อมรบร่วมทางอากาศประจำปี ระหว่างกองทัพอากาศไทย-จีน ในชื่อ ‘Falcon Strike-2023’ จะจัดขึ้นในช่วงเดือนนี้ที่ฐานทัพอากาศ จังหวัดอุดรธานี โดยจีนจะส่งเครื่องบินรบ เครื่องบินทิ้งระเบิด และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าทางอากาศ (AEW) เข้าร่วมในการฝึกซ้อมด้วย
แถลงการณ์ยังระบุจุดประสงค์ของการฝึกซ้อมรบร่วมดังกล่าว เพื่อกระชับการแลกเปลี่ยนเชิงปฏิบัติ ตลอดจนเพิ่มความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน ซ่งจงผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารและผู้บรรยายรายการทีวีของจีน ให้สัมภาษณ์ Global Times ว่าการฝึกซ้อมรบร่วมทางอากาศระหว่างไทยและจีนนั้น ถือเป็นความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างจีนกับชาติสมาชิกอาเซียน ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกัน ตลอดจนช่วยลดความเสี่ยงและความขัดแย้งในภูมิภาค
โดยเขาชี้ว่ากองทัพไทยและจีนนั้นได้รักษาความสัมพันธ์เชิงบวกที่มีต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมามีการฝึกซ้อมรบร่วมเป็นประจำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความไว้วางใจทางทหาร
อย่างไรก็ตาม ซ่งกล่าวว่า จีนไม่ได้พยายามสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘พันธมิตรทางทหาร’ กับไทย และไม่มีความตั้งใจที่จะสร้างอิทธิพลทางทหารของตนเองในประเทศใดๆ ซึ่งความร่วมมือทางทหารของจีนกับประเทศอื่นๆ ไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายไปยังฝ่ายที่สามแต่อย่างใด โดยการเพิ่มความร่วมมือทางทหารของจีนกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นส่วนสำคัญของการทูตทางทหารของจีน ที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
ทั้งนี้ หานจื้อเฉียง (Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อไทยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม) ในโอกาสครบรอบ 48 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย โดยระบุว่า “การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและการพัฒนาในเวทีระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค เป็นการเน้นย้ำถึงคุณค่าที่มีร่วมกันในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย”
อ้างอิง:
